xs
xsm
sm
md
lg

บุกทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้โรงเรียนทั่วกรุง พบขายให้แม้กระทั่งเด็กอายุ 9 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับตำรวจเปิดปฏิบัติบัติการ “VAPE OPERATION” บุกทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษา ยึดของกลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พบขายให้เด็กอายุเพียง 9 ปี

วันนี้ (6 มี.ค.) ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สําราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนก่อนเปิดปฏิบัติการ “VAPE OPERATION” บุกทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษา 14 จุด และโกดังแหล่งเก็บสินค้า 1 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย 11 คน ตรวจยึดของกลางได้ 8,871 รายการ รวมทั้งสิ้นเป็นบุหรี่ไฟฟ้า 5,758 ชิ้น น้ำยาหัวบุหรี่ 3,113 ชิ้น

โดยร้านแรก dope vape ซอยเพชรเกษม 54 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ใกล้โรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม ตรวจยึดของกลาง 1.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 38 ชิ้น 2.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมน้ำยา 7 ชิ้น 3.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนหัวพอด 5 ชิ้น 4.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดหัวพอด 52 ชิ้น 5.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติม 11 ชิ้น จับกุม ผู้ต้องหา 2 คน ดำเนินคดีข้อหาฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

2.ร้านเนียมี แยกบิ๊กซีราม ที่ตั้งร้าน ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ตรวจยึดของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า 200 ชิ้น 2.น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 300 ชิ้น 3.อุปกรณ์แพคพัสดุ จับกุม Mr.sar tun สัญชาติเมียนมา ดำเนินคดีข้อหา จำหน่ายสินค้าต้องห้ามฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

3.ร้านบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีชื่อ ซอยรัชดาภิเษก 36 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ตรวจยึดของกลาง 1.คอยบุหรี่ไฟฟ้า (อุปกรณ์ส่วนควบ) (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 46 อัน 2.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 572 หัว 3.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดเติม (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 294 ขวด 4.หัวพอด ชนิดเติมน้ำยา จำนวน 51 หัว 5.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดเติมน้ำยา (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 40 เครื่อง 6.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 343 เครื่อง 7.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า เปลี่ยนหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 6 เครื่อง 8.น้ำกระท่อมบรรจุขวด จำนวน 26 ขวดจับกุม น.ส.นิด เพชรแก้ว ดำเนินคดีข้อหา จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร (น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายอาหาร ควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ร่วมกัน ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า)” ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

4.ร้านบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีชื่อ สยามสแควร์ ซอย 6 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ใกล้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตรวจยึดของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 100 ชิ้น มูลค่าประมาณ 29,000 บาท 2.น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 100 ชิ้น มูลค่าประมาณ 8,500 บาท จับกุม 1 ราย 1 คน ดำเนินคดีข้อหา “จำหน่ายสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่) ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีค่าตอบแทน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยผิดกฎหมาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

5.ร้านบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีชื่อ ตลาดราม 2 ไนท์บาซาร์ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ใกล้โรงเรียนกรุงเทพพิทยา ตรวจยึดของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า แบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน ประมาณ 140 อัน 2.หัวบุหรี่ไฟฟ้า สำหรับถอดเปลี่ยน จำนวนประมาณ 250 อัน 3.น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนประมาณ 70 ชิ้น 4.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนประมาณ 9 อัน 5.กล้องวงจรปิด จำนวน 1 เครื่อง พร้อม การ์ดหน่วยความจำ จำนวน 1 อัน 6.ป้าย QR Code รับเงิน ชื่อบัญชี น.ส.ชญาณิศา รักถาวร จับกุม น.ส.ชญาณิศา รักถาวร ดำเนินคดีข้อหา หน่ายสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่) โดยมีค่าตอบแทน, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจัก โดยยังไม่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข ดำเนินคดีตามกฎหมาย

6.โกดังเก็บสินค้า ห้องพักเลขที่ 312 ภายในอาคารที่พักแห่งหนึ่ง ซอยวิภาวดีรังสิต 16 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า 2,000 ชิ้น 2.น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 1,000 ชิ้น 3.อุปกรณ์บรรจุแพคพัสดุ จับกุม จำนวน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ดำเนินคดีข้อหา จำหน่ายสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่) ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีค่าตอบแทน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยผิดกฎหมาย

7.ร้าน Max cafe ตลาดพลู ถนนเทอดไท 22 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ อยู่ข้างโรงเรียนธนบุรีวรเทพีพลารักษ์ ตรวจยึดของกลาง รวม 417 ชิ้น 1. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า salnic ขนาด 30 ml. (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 57 ขวด 2. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า freebase ขนาด 30 ml. (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 18 ขวด 3. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า freebase ขนาด 50 ml. (คละรุ่น/ยี่ห้อ จำนวน 9 ขวด 4. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า freebase ขนาด 60 ml.(คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 41 ขวด 5. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า freebase ขนาด 65 ml. (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 18 ขวด 6.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า freebase ขนาด 100 ml. (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 2 ขวด 7. เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) 8,000 คำ จำนวน 17 เครื่อง 8.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) 6,000 คำ จำนวน 1 เครื่อง 9.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) 5,000 คำ จำนวน 1 เครื่อง 10.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า เปลี่ยนหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 1 เครื่อง 11.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า เติมน้ำยา (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 2 เครื่อง 12.หัวสูบชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 172 หัว 13.coil (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 78 ชิ้น จับกุม นายวรุตม์ วลัยวรางกูร ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกัน ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า)” ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลาดพลู ดำเนินคดีตามกฎหมาย

8.ร้าน 86 VAPE N SMOKE ตั้งอยู่กลาง ซอยวิภาวดีรังสิต 2 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า 100 ชิ้น 2.น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 100 ชิ้น จับกุม จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน ดำเนินคดีข้อหา จำหน่ายสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่) ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีค่าตอบแทน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย

9.บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 3/438 เขตสายไหม กรุงทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง : 1.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 356 หัว 2.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดเติม (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 8 ขวด 3.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 198 เครื่อง 4.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า เปลี่ยนหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 4 เครื่อง 5.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้ออเลอร์ยิ่นจำนวน 7 ขวด 6.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อดาทินซิน จำนวน 8 ขวด 7.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้ออาซาคอก จำนวน 11 ขวด 8.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อไดเฟินนิลจำนวน 9 ขวด 9.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้ออาซาคอก จำนวน 11 ขวด 10.บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ จำนวน 52 ซอง 11.น้ำกระท่อมบรรจุขวด ขนาด 1,500 มล. จำนวน 22 ขวด จับกุม นายนันทวัฒน์ สี่คล้า ดำเนินคดีข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2569, จำหน่ายอาหารที่เป็น หรือมี พืชกระท่อมเป็นส่วนผสม โดยผิดกฎหมาย (พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 6 (8), มาตรา 50, ปก.สธ. ฉบับที่ 424/2564 ลง 25 ก.พ.2564 และ ปก.สธ. ฉบับที่ 430/2564 ลง 30 ธ.ค.2564) และ ขายซึ่งยาแผนปัจจุบัน (ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.ยา 2510 มาตรา 12, มาตรา 101) และผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อการขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต จับกุม นายนันทวัฒน์ สี่คล้าย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

10.บ้านไม่มีเลขที่ ซอยรามอินทรา 14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง 1.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 42 เครี่อง 2.หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดหัวพอด (คละรุ่น/ยี่ห้อ) จำนวน 64 หัว จับกุม นายสิทธิ์ศักดิ์ ธรา ดำเนินคดีข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไป ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560

สำหรับพฤติการณ์เหล่านี้กับเรื่องของ “บุหรี่ไฟฟ้า” ภัยร้ายที่กำลังคืบคลานมามอมเมาเยาวชนไทย ล่าสุดกลุ่มเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนคอซอง เดินพ่นไอควันต่อหน้าต่อตา ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยที่ผ่านมามุ่งกับนโยบายเพื่อพาประเทศก้าวไปข้างหน้า แต่ภาพนักเรียนหญิงเบื้องหน้า ทำให้ต้องกลับมาคิดทบทวนปัญหานี้โดยเร็วที่สุด โดยหารือแนวทางกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จนตกผลึกได้ว่า ต้องปราบปรามให้สิ้น จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ และ พล.ต.ต.ธีรเดช ปราบปรามโดยที่เร่งด่วนที่สุดคือเหล่าร้านค้าที่มีลักษณะ “มอมเมาเยาวชน” โดยร่วมกันระหว่างคณะทำงานของรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่สืบสวนพบร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้าใกล้โรงเรียนกว่า 11 แห่ง และเป็นภาพที่น่าอนาถใจเมื่อได้สืบทราบว่าร้านค้าเหล่านี้ขายให้แม้กระทั่งเด็กนักเรียนซึ่งอายุเพียง 9 ปี โดยเกือบทุกร้านที่เปิดใกล้กับสถานศึกษาก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน และสืบสวนขยายผลจนทราบแหล่งโกดังที่มาของสินค้าละแวกสุทธิสาร

จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าวในวันนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางรวมทั้งสิ้นเป็นบุหรี่ไฟฟ้า 8,871 ชิ้น มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งหลังปฏิบัติการ และเป็นภาพที่สะเทือนใจเมื่อขณะเข้าจับกุมร้านบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษาย่านอุดมสุข พบนักเรียนวัยกระเตาะ 2 ราย กำลังยืนเลือกซื้ออยู่ในร้าน โดยยังไม่ทราบว่าสิ่งที่ตนเองซื้อนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า ได้เปิดปฏิบัติการ “VAPE OPERATION” หรือการทลายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและผู้ปกครองจำนวนมาก ว่าบุตรหลานโดยเฉพาะนักเรียนอายุ 7-9 ปีถูกมอมเมาด้วยบุหรี่ไฟฟ้าจนเสพติด มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ถึงโทษของบุหรี่มากมาย แต่บุหรี่ไฟฟ้ากลับที่นิยมในหมู่เด็กนักเรียนและวัยรุ่นมีพฤติกรรมเลียนแบบ และมีการรวมกลุ่มกันสูบในสถานศึกษาและที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อมองถึงบุหรี่ไฟฟ้ามีความแตกต่างกับบุหรี่จริงที่ชัดเจนที่สุดคือมีกลิ่นหอม มีหลากหลายยี่ห้อ เช่น Marbo Infy RELX Jues เป็นต้น อีกทั้งตัวอย่างกลิ่นของบุหรี่ไฟฟ้า เช่น สตรอเบอรี่ แตงโม ส้ม ลิ้นจี่ โค้ก สไปรท์ ชา มิ้นต์ ลูกอม ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงกลุ่มเด็กนักเรียนและวัยรุ่นโดยแท้จริง ทางรัฐบาลจึงมีความเป็นห่วงเยาวชนของชาติ ยิ่งปัจจุบันหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ผู้ที่จำหน่ายก็ไม่คำนึงถึงจุดนี้ จำหน่ายให้กลุ่มเด็กนักเรียนและวัยรุ่นจนเป็นเรื่องปกติ ทำให้ไม่มีการควบคุมจึงได้ประสานงานร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้สืบนครบาลร่วมปราบปรามแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยเน้นใกล้สถานศึกษาให้เด็ดขาด


กำลังโหลดความคิดเห็น