อัยการมีนบุรี สั่งฟ้อง "ศรีพรรณ" กับพวกรวม 4 คนคดีบุกรุกยึดบ้าน "อากู๋" แถมอ้างครอบครองปรปักษ์ รวม 3 ข้อหา บุกรุก-ลักทรัพย์-ทำให้เสียทรัพย์ คุมตัวส่งศาล ลุ้นประกัน ด้านทนายเจ้าของบ้านเผยลูกความเรียกค่าเสียหาย 3 แสน พร้อมค่าเช่าย้อนหลังเดือนละ 2 หมื่นบาท 6 ปี
วันนี้ (6 มี.ค.67) นางสาวศรีพรรณ สามัคคี และกลุ่มผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้านครอบครองปรปักษ์ บ้านของอากู๋ รวม 4 คน พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความ เดินทางเข้าพบ นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ตามกำหนดนัดฟังคำสั่งในคดีบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์
จากกรณี นายซัน หลานอากู๋ เข้าตรวจสอบบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 กทม. ซึ่งเกิดข้อพิพาทระหว่างอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง กับเพื่อนบ้านคู่กรณีที่ลักลอบเข้ามายึดบ้านและอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม
และพนักงานสอบสวน สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และ พนักงานอัยการ นัดฟังคำสั่งในวันนี้
นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองรับผิดชอบในคดีอาญาเรื่องการบุกรุกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าวันนี้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องทันที สำหรับ น.ส.ภาณุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะจำหน่ายคดีไป ขณะที่เรื่องการเจรจาก็ได้พูดคุยกับนายซัน และ น.ส.อาย คู่กรณีไปบ้างแล้ว ลูกความตนเองก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผิด พร้อมขอเวลาแก้ไข เพราะมีผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อยากให้เหตุบานปลายไปมากกว่านี้
ทางด้าน นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวว่า หลังรับตัวผู้ต้องหาแล้ว คณะพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานบุกรุก,ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไว้ เนื่องจากได้พิจารณาประกอบพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีมูล โดยสัปดาห์ก่อน พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องแจ้งเข้ามาว่ามี น.ส.ภาณุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตลง ก็สั่งยุติคดีไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 รายก็จะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรีในวันนี้ทันที
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน ขณะที่ชั้นอัยการ ผู้ต้องหาไม่ได้มีข้อร้องขอความเป็นธรรมใดๆ ทั้งยังมีความพยายามจะขอเจรจากับคู่กรณีด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม หากบ้านของคู่กรณีได้รับความเสียหายจากการบุกรุกก็สามารถร้องขอค่าชดเชยทางแพ่งได้
ต่อมา น.ส.ศรีพรรณ ได้เดินทางขึ้นรถและเดินทางไปศาลต่อทันที พร้อมปฏิเสธไม่ตอบคำถามใดกับสื่อมวลชน
ขณะที่ น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมา ได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล ซึ่งวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุก ส่วนขั้นตอนผู้ต้องหาหรือขณะนี้มีสถานะเป็นจำเลยแล้ว ต้องยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ในการประกันตัวต่อศาล ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่า เดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน
ส่วนสำนวนคดีที่ 2 ที่มีการแจ้งความ น.ส.ศรีพรรณ ในคดีบุกรุก พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ยังคงสอบสวนอยู่
และคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทราบว่า น.ส.ศรีพรรณ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อถอนการครอบครองแล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้อง จึงต้องรอนัดหมายอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.นี้
น.ส.อำนวยพร กล่าวอีกว่า ยังคงยืนยันว่าหากเปลี่ยนตัวทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายฝั่งคู่กรณี ตามข้อตกลงของอากู๋ ก็จะเจรจากันได้ง่ายขึ้น แต่จนขณะนี้เจ้าตัวไม่เคยติดต่อเข้ามาพูดคุย