รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ พลิกปมขัดแย้ง บ้านพัก จอมพล ป.
กรณีพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.ไม่ใช่ครั้งแรก ที่หน่วยงานรัฐด้วยกันเอง ทำงานกันแบบ “ประสานงา” ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ กับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
แต่ยังมี “มวยอีกคู่” ซึ่งลุยกันอย่างดุเดือดมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะมีกรรมการมาชี้ขาดให้เลิกชกกันได้แล้ว พอเสียที
นั่นคือ กรณีพิพาท “บ้านจอมพล ป. พิบูลสงคราม” และน้ำตกนางรอง จ.นครนายก ซึ่งเป็นการแย่งชิงพื้นที่กันระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ กับ อบจ.นครนายก หน่วยงานของรัฐด้วยกันอีกแล้ว
ทั้งนี้ บ้านจอม พล ป. พิบูลสงคราม หลังดังกล่าว มีประวัติความเป็นมายาวนาน เกือบๆ จะเป็นโบราณสถานเลยทีเดียว ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักรับรอง แล้วเสร็จเมื่อปี 2498 โดยท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลย์สงคราม ภริยาของจอมพล ป. นายกรัฐมนตรี ในเวลานั้น เป็นผู้ดำเนินการ
ต่อมา ท่านผู้หญิงละเอียด ได้มอบบ้านดังกล่าวให้กับทาง จ.นครนายก รับไปดูแล จนกระทั่งโครงสร้างการบริหารเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มีการกระจายอำนาจ และการถือกำเนิดขึ้นมาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.
บ้านพักจอมพล ป. ดังกล่าว จึงย้ายไปอยู่ในความดูแลของ อบจ.นครนายก ซึ่งทาง อบจ. ก็จัดการพัฒนาบริเวณโดยรอบ สร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ภายในเนื้อที่อันร่มรื่นของน้ำตกนางรอง ที่มีขนาด 11 โร่ 3 งาน 95 ตารางวา
ความขัดแย้งเกิดขึ้น เมื่อมีการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อปี 2505 ซึ่งมีเนื้อที่ครอบคลุมน้ำตกนางรองด้วย ทางกรมอุทยานฯ จึงจะเข้าไปดูแลพื้นที่ และยึดบ้านจอมพล ป. แต่ก็ถูกทาง อบจ.นครนายก ต่อต้าน ต่างฝ่ายต่างอ้างกฎหมาย มางัดข้อกัน
ฝ่าย อบจ.นครนายก อ้างว่า บ้านพักจอมพล ป. สร้างมาก่อนการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
แต่ กรมอุทยานฯ เกทับว่า พื้นที่ดังกล่าว ประกาศเป็นพื้นที่ป่าคุ้มครองน้ำตกนางรองและน้ำตกสาริกา มีพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2496 หรือก่อนจะมีการสร้างบ้านพักจอมพล ป. 2 ปี
จนกระทั่งเดือน ก.ย. 2558 ในยุค คสช. กรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็เปิดยุทธการ “ทวงคืนผืนป่าน้ำตกนางรอง” มีการสนธิกำลังกับ กอ.รมน. และฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก รวมประมาณ 100 นาย บุกยึดพื้นที่พิพาทน้ำตกนางรอง
ผลการตรวจยึด พบว่า จากบ้านพักจอมพล ป. ที่มีแค่หลังเดียว ทาง อบจ.นครนายก ได้สร้างบ้านพักเพิ่มขึ้นอีกมากมาย รวมทั้งสิ้น 45 หลัง สร้างรายได้อย่างงามให้กับทาง อบจ. ปีละหลายล้านบาท
แต่ยุทธการครั้งนั้นก็ไม่ง่าย เพราะมีคนระดับ รองนายกอบจ.นครนายก โผล่มาขัดขวาง จนเกิดการปะทะคารมกับทหาร กอ.รมน.
ในที่สุด กรมอุทยานฯ ก็แจ้งความดำเนินคดีกับ อบจ.นครนายก ถึง 6 ข้อหา จากพฤติกรรมยึดครองพื้นที่ป่าน้ำตกนางรอง
ข้อน่าสังเกตก็คือ หัวหน้าทีมของกรมอุทยานฯ ที่บุกทวงคืนน้ำตกนางรอง คือนายสมัคร ดอนนาปี ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ในเวลานั้น
ซึ่งนายสมัคร ถือเป็นไม้เบื่อไม้เมา มีคดีฟ้องร้องกันวุ่นวายกับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ คนปัจจุบัน
และนายชัยวัฒน์ เพิ่งมีบทบาทในการทวงคืนผืนป่าอุทยานฯ เขาใหญ่ คืนจาก ส.ป.ก. เช่นกัน
เรียกว่าศัตรูคู่อาฆาตในกรมอุทยานฯ ดันมีบทบาทเป็นหัวหอกช่วยอุทยานฯ เขาใหญ่ เหมือนกัน
คดีความระหว่างกรมอุทยานฯ กับอบจ.นครนายก ยืดเยื้อยาวนานอีกหลายปี แบบไม่มีใครยอมใคร
จนกระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุด เพิ่งมีคำสั่งชี้ขาดออกมา ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า คณะกรรมการข้อพิพาท มีมติให้ กรมอุทยานฯ เป็นผู้ดูแลบ้านพักจอมพล ป. พิบูลสงคราม และบริเวณรอบบ้าน และพื้นที่น้ำตกนางรอง ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ทาง อบจ. สร้างไว้
คำสั่งจากสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าว เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาชี้ขาด การยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี พ.ศ.2561 ข้อ 17
เป็นอันว่า มหากาพย์บ้านพักจอม พล ป. ณ น้ำตกนางรอง ได้เวลาสิ้นสุดเสียที
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android