MGR Online - “รมว.ยธ.-เลขาฯ ป.ป.ส.” ร่วมภาคี แถลงจับกุมแก๊ง Big Bike ผู้ต้องหา 6 ราย ลักลอบขนยาเสพติดจากภาคเหนือบิ๊กลอต ตามเบาะแสร้องเรียน สายด่วน 1386
วันนี้ (5 มี.ค.) ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส., พล.ต.สมจริง กอรี รอง ผบ.นบ.ยส.35 / รอง ผอ.ศอ.ปส.ชน., พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, พ.อ.สุชาติ ไวติดต่อ หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, น.ท.จักรกฤษณ์ นาคเทวัญ สำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารเรือ ร่วมแถลงผลปฏิบัติการสืบสวนขบวนการลำเลียงยาเสพติด ตามเบาะแสร้องเรียนผ่านสายด่วน 1386 จนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์ Big Bike จำนวน 5 คัน (คันละ 370,000-380,000 เม็ด) และทำการขยายผลตรวจค้นเพิ่มเติม จำนวน 10 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด (ชลบุรี 5 จุด , กทม. 3 จุด, สมุทรปราการ 1 จุด, พิจิตร 1 จุด) ก่อนยึดอายัด รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์เพิ่มอีก 1 คัน รวมเป็นรถจักรยานยนต์ Big Bike 6 คัน เงินสด 49,000 บาท ทองคำน้ำหนักรวม 42 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารยอดเงิน 217,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 7 ล้านบาท
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 67 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับแจ้งเบาะแสร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 จากพลเมืองดีในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยแจ้งว่า พบกลุ่มรถจักรยานยนต์ Big Bike มาพักอยู่ที่โรงแรมในพื้นที่ตัวเมือง จ.เชียงราย ขับรถเสียงดังรบกวนช่วงกลางดึก คาดว่า จะมีการรวมกลุ่มมั่วสุมเสพยาเสพติด และต้องสงสัยว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้การอำพรางเป็นคาราวานท่องเที่ยว ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสพบเห็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ Big Bike ดังกล่าว เข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง และมักจะเดินทางออกจากพื้นที่ในช่วงเวลาเช้ามืด ผิดปกติจากบุคคลทั่วไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 2 (จ.เชียงราย) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามเบาะแสร้องเรียน โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกระจายกำลังค้นหากลุ่มรถ Big Bike ต้องสงสัย บริเวณพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย กระทั่งพบกลุ่มรถจักรยานยนต์ลักษณะตามแจ้ง จำนวน 6 คัน มีชายวัยรุ่นและชายวัยกลางคน เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งรถ Big Bike ลักษณะมีโครงเหล็กพร้อมติดตั้งกล่องบรรทุกสิ่งของ เป็นสิ่งบ่งชี้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าพักที่รีสอร์ตในพื้นที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
“กระทั่ง ช่วงเช้าของวันที่ 4 มี.ค. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถ Big Bike จำนวน 5 คัน ซุกซ่อนยาบ้าคันละ 370,000-380,000 เม็ด ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับค่าจ้างในการลำเลียงยาเสพติด รวมจำนวน 1 ล้านบาท ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง และเตรียมนำยาเสพติดไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งจากการสืบสวน เชื่อว่า ยาเสพติดลำเลียงมาจากพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าว ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 7 ล้านบาท”
เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า การจับกุมดังกล่าวถือเป็นลักษณะการกระทำความผิดรูปแบบใหม่ โดยขบวนการลำเลียงยาเสพติด จะอำพรางเป็นคาราวานท่องเที่ยวใช้ยานพาหนะประเภท รถ Big Bike ติดตั้งโครงเหล็กพร้อมบรรทุกกล่องสิ่งของ ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้ามาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ไม่ได้เป็นยานพาหนะต้องสงสัยที่ใช้ในลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากระดับล้านเม็ด และส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์
ด้าน พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ความสำเร็จของคดีดังกล่าว เกิดจากประชาชนแจ้งเบาะแสร้องเรียนยาเสพติดผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลร้องเรียนสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบและเร่งดำเนินการทุกข้อร้องเรียน โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะมีความปลอดภัยและเป็นความลับอย่างแน่นอน เพื่อลดปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 - ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด (ทุกช่องทาง) เป็นจำนวน 7,370 เรื่อง และดำเนินการแล้ว 4,143 เรื่อง ซึ่งจะดำเนินการให้ครบทุกเรื่อง ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากประชาชน
“ขอบคุณประชาชนที่แจ้งเบาะแส คดีดังกล่าวเป็นความร่วมมือที่ดีของทุกๆ ฝ่าย ทั้งภาคประชาชนที่ไม่นิ่งนอนใจเมื่อพบเหตุต้องสงสัย และเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็ตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของประชาชนอย่างรวดเร็ว และร่วมมือกันจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้” รมว.ยุติธรรม กล่าวทิ้งท้าย
