ผู้เสียหาย 2 ใน 6 กะเทยไทย เดินทางให้ปากคำตำรวจ สน.ลุมพินี หลังไปตรวจร่างกาย ยืนยันถูกกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ กระทืบเท้า-ยั่วยุ ก่อนเข้ามารุมทำร้าย
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ สน.ลุมพินี ผู้เสียหาย 2 ใน 6 กะเทยไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่กะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย ในซอยสุขุมวิท 11 เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อมาให้ปากคำ หลังจากไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก เล็บฉีกจากการโดนรุมกระทืบ เพราะในขณะนั้นกะเทยไทย 1 คน ต่อกะเทยฟิลิปปินส์ 4 คน
ส่วนสาเหตุมาจากการที่กลุ่มกะเทยไทย ซึ่งเป็นน้องของตน เดินผ่านกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ แล้วกลุ่มนั้นกระทืบเท้าใส่ น้องตนจึงถามว่า “เป็นอะไรหรือป่าว” จากนั้นกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ก็มีท่าทางยั่วยุ จนสุดท้ายต้องมาเคลียร์กันที่โรงพัก และก็เคลียร์กันจบแล้ว หลังจากนั้น น้องของตนก็ไปกินข้าวที่ปากซอยสุขุมวิท 5 และเจอกับกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะเข้ามาทำการยั่วยุตามคลิปที่ปรากฏ และกะเทยฟิลิปปินส์ก็ได้โทร.เรียกพวกมาเพิ่มเติม เพื่อที่จะมารุมทำร้ายกลุ่มกะเทยไทย ตอนนั้นน้องของตนรู้สึกกลัว เลยโทร.มาหาให้เดินทางไปรับ ตนจึงชวนเพื่อนออกไปในที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงก็มีการสอบถามว่า “ทำไม” แต่สุดท้ายกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ ก็มีลักษณะท่าทางที่มั่นใจ และยั่วยุ ก่อนจะเข้ามารุมทำร้าย
โดยยืนยันว่า พวกตนไม่ได้อยากมีเรื่อง แต่กะเทยฟิลิปปินส์ มารุมทำร้ายก่อน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องของการขายบริการตัดราคา เพราะเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ รวมถึงไม่เชื่อว่า กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์จะเดินทางเข้าไทยมาเป็นนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมา กะเทยไทยไม่เคยทำอะไรเลยแม้จะถูกยั่วยุ เพราะไม่อยากให้ภาพลักษณ์คนมองกะเทยไทยไม่ดี ยืนยันว่า หลังจากนี้ จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนจุดเริ่มต้นที่ไปรวมตัวกันบริเวณหน้าโรงแรมซอยสุขุทวิท 11 เมื่อวานนี้ มาจากที่เพื่อนๆ พี่ๆ กะเทยไทยมาให้กำลังใจ เพราะรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเหยียดหยามคนไทย โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายในวันเกิดเหตุ ที่สาวประเภทสองฟิลิปปินส์พูดนั้น มีความหมายเป็นการดูถูก และเหยียดหยามอย่างมาก
ส่วนหลังจากนี้ หากเจอหน้ากันจะมีการทะเลาะกันอีกหรือไม่นั้น มองว่า ถ้าฝ่ายกะเทยฟิลิปปินส์หยุด พวกตนก็ไม่อยากมีเรื่องอะไร แต่ถ้าเขายังยั่วยุก็ไม่แน่ใจ