ข่าวลึกปมลับ : เทศกาล ‘เขาคิชฌกูฏ’ สารพัดปัญหาซ้ำซ้อน อาจไม่ใช่ศพสุดท้าย

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2567 ตอน เทศกาล ‘เขาคิชฌกูฏ’ สารพัดปัญหาซ้ำซ้อน อาจไม่ใช่ศพสุดท้าย



แม้ว่าจะเพิ่งอุบัติเหตุรถกระบะขนส่งผู้แสวงบุญขึ้นลงเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี พลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวประหวั่นวิตกแต่อย่างใด ภายหลังยังปรากฎภาพคนจำนวนมากทยอยขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏอย่่างต่อเนื่อง

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทนั้นผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวไม่สามารถขับรถขึ้นไปได้เอง เพราะต้องนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่วัดพลวง หรือ วัดกระทิง และต่อรถกระบะที่ปรับแต่งสำหรับขึ้นทางลาดชัดต่อไปอีกประมาณ 7 -10 กิโลเมตร

สองข้างทางตลอดการนั่งรถกระบะขึ้นไป เต็มไปด้วยป่าทึบ มีความแคบชันเป็นระยะ และยิ่งถ้าวันไหนมีฝนตกลงจะส่งผลให้ถนนที่ดินลูกรัง กลายเป็นหลุมเป็นบ่อทันที ด้วยเหตุนี้เองคนที่จะได้รับอนุญาตให้ขับรถกระบะบริการนักแสวงบุญต้องมีความชำนาญและผ่านการตรวจสภาพรถยนต์ทุก 7 วันตลอดเทศกาลประมาณ 2 เดือน และเมื่อสิ้นสุดงานเทศกาลนี้ เส้นทางขึ้นเขาคิชฌกูฏจะถูกปิดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน

แต่กระนั้นเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้แสวงบุญไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเมื่อปี 2566 เกิดอุบัติเหตุรถให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ชนแนวหินไหล่ทาง เนื่องจากระบบเบรกขัดข้อง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย ครั้งนั้นทั้งอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏและฝ่ายปกครองในพื้นที่ ประกาศตรวจเข้มคนขับรถจะต้องมีความชำนาญและเน้นย้ำให้ตรวจสอบสภาพรถเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ยังเกิดเหตุซ้ำจนได้

หากจะบอกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทและสภาพรถที่ไม่พร้อมใช้งานเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ถูกนัก เพราะต้องยอมรับว่าการที่งานนมัสการทีเปิดโอกาสให้นักแสวงบุญขึ้นไปบนเขาได้เพียง 2 เดือน ทำให้เกิดความแออัดเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเปิดให้ขึ้นเขาตลอด 24 ชั่วโมงก็ตาม

ประกอบกับคนขับรถให้บริการและผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ก็หวังว่าจะใช้ช่วงเวลาตลอด 2 เดือนนี้สร้างรายได้ให้มากที่สุด จึงส่งผลให้ความรอบคอบและความระแวดระวังลดลงตามลำดับ

เดิมทีก่อนหน้านี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแนวความคิดว่าจะเปิดให้มีการนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตลอดทั้งปี เพื่อลดความแอดอัด โดยจะปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่ดูเหมือนเรื่องนี้ก็เงียบหายไป เพราะบางฝ่ายมองว่าการจัดงานระยะเวลา 2 เดือนถือว่ามีความเหมาะสมและเป็นเสน่ห์อยู่แล้ว อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการรบกวนวิถีชีวิตของสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติมากจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม หากทางผู้จัดงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์รถพลิกคว่ำที่เพิ่งเกิดขึ้นจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน

โดยนอกจากจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขับรถแล้ว การปรับปรุงเส้นทางรถที่ใช้สำหรับขึ้นลงเขาก็เป็นเรื่องที่พิจารณาและเร่งแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งสภาพที่เห็น คือ ถนนเป็นดินลูกรัง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเปลี่ยนเป็นถนนคอนกรีตหรือลาดยางก็อาจทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น เหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆตามพื้นที่สูง

การท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาของเขาคิชฌกูฏ เคยเสียโอกาสมาแล้วจากเมื่อครั้งที่ผลประโยชน์ระหว่างคนกับวัดไม่ลงตัว ซึ่งกว่าจะเคลียร์กันได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้น ถ้าต้องเสียโอกาสไปอีก เพราะมาจากความประมาทและความสะเพร่าด้วยน้ำมือของคนไม่กี่คน ก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง

*********
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android