อัยการตามยึดทรัพย์เครือข่าย’เหว่ยเซียะกัง’จากธนาคารสวิส สำเร็จ 76 ล้านบาท หลังศาลเเพ่งมีคำสั่งยึดทรัพย์ ชี้เป็นข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินฉบับแรก เล็งตามยึดทรัพย์คดีฟอกเงินอีกหลายประเทศ
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างประเทศไทยและประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีสถานะเป็นสนธิสัญญาที่ประเทศไทยจะได้รับเงินจำนวน 1,882,332.68 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 76,896,733 บาท พร้อมดอกผลที่จะมีขึ้นในภายหน้า คืนจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสำนักงาน ปปง.ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหารายหนึ่ง เชื่อว่าเป็นทรัพย์สินจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ต้องหากับพวก มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดเมทแอมเฟตามีนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเหว่ยเซียะกังในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินบางส่วนไปฝากไว้ที่ธนาคารประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำนักงานปปง. จึงขอให้อัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลางตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ดำเนินการยึดอายัดเงินฝากในธนาคารสวิสของผู้ต้องหา สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากทางการประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และอัยการสวิสเซอร์แลนด์ได้ดำเนินการอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารสวิสของผู้ต้องหา
ต่อมาได้ฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559 ลงโทษผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3,60,61 วรรคหนึ่ง และอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ทรัพย์สินของผู้ต้องหาตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลแพ่งมีคำสั่งถึงที่สุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2560 ให้ทรัพย์สินเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2561 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งคำร้องขอไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อริบและส่งคืนทรัพย์สินตามคำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวกลับคืนมายังประเทศไทย ซึ่งทางการประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายแล้ววินิจฉัยให้ส่งคืนทรัพย์สินกลับมายังประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงการแบ่งปันทรัพย์สิน (Asset Sharing) ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ผูกพันรัฐบาลทั้งสอง คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564 มอบให้ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการเจรจาทำข้อตกลง โดยมีผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ปปง. และกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นคณะผู้เจรจา อัยการสูงสุดมอบหมายให้นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะเจรจา ผลการเจรจากับสวิสเซอร์แลนด์ ตกลงแบ่งปันทรัพย์สินจากทรัพย์สินที่ได้อายัดไว้ในอัตราส่วนที่เท่ากันระหว่างสองประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้อัยการสูงสุดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามข้อตกลงฝ่ายราชอาณาจักรไทย ข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินฉบับนี้เป็นข้อตกลงฉบับแรกในประวัติศาสตร์ซึ่งไทยทำกับต่างประเทศและสามารถใช้เป็นแบบอย่างในการทำข้อตกลงแบ่งปันทรัพย์สินกับประเทศอื่นๆได้ โดยคดีดังกล่าวนับเป็นความสำเร็จของสำนักงานอัยการสูงสุดในการติดตามเอาทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดที่ได้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังต่างประเทศคืนมายังประเทศไทย
สำนักงานอัยการสูงสุดขอบคุณเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ปัจจุบันยังมีทรัพย์สินของผู้กระทำผิดในคดีค้ายาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทุจริตประพฤติมิชอบ ฟอกเงิน และคดีอื่นๆ ที่นำไปซุกซ่อนในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เกาะเจอร์ซีย์ และเกาะเกิร์นซีย์ ที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำลังดำเนินการประสานงานกับต่างประเทศเพื่อยึด อายัด และริบทรัพย์ตามพ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 อยู่หลายคดี คาดว่าจะนำทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดกลับคืนมาประเทศไทยได้ในไม่ช้า