เปิดศึกวางมวยพระตีกันในวัดกู้เลือดอาบอาการสาหัส ญาติโยมหามส่งโรงพยาบาล เจ้าอาวาสสั่งจับสึก เจ้าตัวโวฝึกการต่อสู้“หย่งชุน ยิปมัน”มาตั้งแต่เด็ก
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากพระสมิทธิ์ กตธัมฺโม อายุ 62 ปี ว่าพระลูกวัดมีทะเลาะชกต่อยกันในวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุเป็นกุฎิ 2 ชั้น เกิดเหตุบนชั้น 2 พระสมิทธิ์ กตธัมฺโม อายุ 62 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.00 น. พระสนธยา วิสุทโธ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัด และพระมหาสุโข เป็นพระมาจากจังหวัดนครสวรรค์ มาบาลีที่วัดได้ประมาณ 3 เดือน และช่วงเวลา 12.00 น. พระสนธยากับพระมหาสุโข ได้มีปากเสียงกัน และมหาสุโข ได้เข้ามาชกต่อยพระสนธยาซึ่งอาตมาก็ได้เข้ามาห้าม ส่วนพระสนธยาได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.ชลประทาน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าสอบถามพระมหาสุโข ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งพระมหาสุโข กล่าวว่า ตนเรียนมวย “หย่งชุน ยิปมัน” เพื่อป้องกันตัว แล้วพระมหาสุโขดูอาการเหมือนคนไม่ปกติ ยืนตาขวาง ช่วงที่เกิดเหตุพระสนธยาซึ่งเป็นคู่กรณีเขาหยิบไม้ถูพื้นมาฟาดอาตมา ดีที่อาตมาฝึกวิชาป้องกันตัวมาทุกอย่างเลยไม่เป็นอะไร อาตมาก็คุยกันอยู่ดีๆพระองค์นั้นก็มาตะคอกใส่อาตมา อาตมาโมโหเลยผลักอัดกำแพง พระองค์ที่มีเรื่องทำเหมือนคนบ้าที่มีบัตรบ้า เขาจะกวนประสาทใครก็ได้ อาตมาก็เป็นคนหัวร้อนอยู่แล้ว เก็บกดมานาน อาตมาพยายามที่สุดที่จะไม่ให้ระเบิดลง
พอมาวันนี้อาตมาไปเตือนในเรื่องของมารยาทฉันท์ข้าว เวลาออกไปสวดก็พากันสวดล่ม อาตมาก็ไปเตือนดีๆแต่มาตะคอกใส่อาตมา และนี้คือครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีปัญหากัน อาตมาเพิ่งมาเรียนที่นี่และตั้งแต่ที่อาตมามาเรียนที่นี้ ก็มีการพูดแขวะมาตลอด ซึ่งไม่ใช่แค่กับอาตมาแต่กับพระทุกรูปเกือบมีมวยกันทุกคน แต่มาพลาดตรงที่มาเจออาตมา อาตมาฝึกทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นจิตสาธารณะของวัด ซึ่งเขากัดอาตมานิ้วเกือบขาด อาตมาจึงเหวี่ยงพระองค์นั้นโดยใช้ท่ามวยปล้ำ เพราะอาตมาฝึกทั้งมวยปล้ำ และ หย่งชุน มาตั้งแต่เด็ก และไม่เคยเอามาทำร้ายใคร อาตมาไม่หนีถ้าโดนจับที่นี่ก็เป็นที่ตายของอาตมา เพราะอาตมาไม่มีที่ตายแล้วเพราะครั้งที่อาตมาอยู่ที่วัดจังหวัดนครสวรรค์อาตมาก็โดนคดีแบบนี้เหมือนกัน
พระครูวิมลสุวรรณกร เจ้าอาวาสวัดกู้ รองเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด กล่าวว่า พระมหาสุโข ท่านมาจาก จ.นครสวรรค์ เพื่อมาขอร่วมอบรมบาลีกับเรา ประมาน 3 เดือนได้แล้ว พระมหาสุโขเรียบร้อยไม่เคยมีปัญหาอะไร เรียนปกติ อาตมาคิดว่าพระมหาสุโขคงเครียดเลยเกิดเหตุพฤติกรรมแบบนี้ขึ้น ฟุ้งซ่าน คุมสติไม่อยู่ทำร้ายคนนู้นคนนี้ อาตมาเลยให้ลาสิกขาไปก่อน
พระมหาจรัญภูริโกวิโท อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัด กล่าวว่า พระมหาสุโขกินยาทุกวันไม่รู้ว่ากินยาอะไรกินวันละ 7-8 เม็ด วันนี้ขาดยาหรือเปล่าถึงมีอาการแบบนี้
ต่อมาเจ้าหน้า ตำรวจสภ.ปากเกร็ด ได้พาพระมหาสุโข เข้าพบพระครูวิมลสุวรรณกร เจ้าอาวาสวัดกู้ รองเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด เพื่อสึกขาดจากการเป็นพระพระ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส. นุสรา ดาลจาวัล เป็นน้องสาวของพระสนธยาอาชีพครูโรงเรียนวัดโพธิ์นิมิตร กล่าวว่า ตนได้สอบถามหลวงพี่ ซึ่งพอที่จะสามารถพูดได้แล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุก็ไปฉันท์เพลด้วยกันแล้วมีการพูดเขม่นกัน ที่บอกว่าใช้แป๊ปตี ตนรู้มาจากกู้ภัยจริงๆแล้วหลวงพี่เป็นคนถือแป๊ปป้องกันตัว และพระมหาสุโขก็บอกว่าป้องกันตัวเหมือนกันแต่ท่านตัวใหญ่กว่า ซึ่งไม่ได้ใช้แป๊ปแต่ใช้มือเปล่าทุบ ต่อยหน้าและจับหัวโขกพื้น จึงบวมอย่างที่เห็น ตนก็ถามพระสนธยาว่าเขม่นอะไรกันถึงเป็นแบบนี้ พระมหาสุโขถือว่าตัวใหญ่กว่าพอพระสนธยาพูดไม่เข้าหูเขาก็ทำร้าย ส่วนเรื่องอาการของพระสนธยา ท่านไม่มีเลือดคลั่งในสมอง แต่ว่าหน้าแตกหัวบวม ซึ่งหมอวินิจฉัยว่า กระดูกแตกตั้งแต่แก้มไปจนถึงบนหัว แต่ข้างในไม่มีเลือด ต้องดูอาการ 24 ชม. สามารถโต้ตอบได้แต่ยังมีอาการมึนงง พูดไม่รู้เรื่อง หมอส่งท่านไปที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารัฐ ตอน 1 ทุ่ม ตนไม่รู้ว่าปัญหาภายในเป็นอย่างไร แต่ตนไม่อยากให้ พระสนธยา หรือพี่ของตนต้องมาโดนแบบนี้อีก