ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “เต้ อะไหล่ซิ่ง” หลอกขายชิ้นส่วนแต่งซิ่งรถ จยย. ผ่านกลุ่มออนไลน์
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. บช.น.พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุมตัวนายไตรรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ 45/2567 ลง 11 ม.ค. 2567 ข้อหา ”ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ถูกจับมีพฤติกรรมชอบแต่งรถจักรยานยนต์สวยงามมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ผู้ถูกจับเกิดความคิดจะจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนแต่งซิ่งรถจักรยานยนต์ประเภท ท่อไอเสีย โช้ค และอุปกรณ์แต่งซิ่งอื่นๆอีกหลายรายการ ตนจึงได้สมัครเป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวและได้โพสต์ประกาศขายในช่องทางออนไลน์ (FACEBOOK) และในกลุ่มของผู้ชื่นชอบตกแต่งรถจักรยานยนต์ในกลุ่มยี่ห้อ ยามาฮ่า และ ฮอนด้า อีกหลายกลุ่ม ซึ่งมีผู้ติดตามในช่องทางดังกล่าวกว่าพันราย หากมีลูกค้าคนใดสนใจจะติดต่อและทักมาพูดคุยและหลงเชื่อตกลงซื้อขายอะไหล่เป็นจำนวนมาก รายละประมาณ 2,000 บาท - 8,000 บาท ซึ่งบางรายตนก็ส่งสินค้าตามที่ตกลง
โดยเงินที่ได้นั้นตนจะเอาไปใช้จ่ายทั่วไปรวมถึงซื้อของแต่งรถจักรยานยนต์ของตนเอง จนมาภายหลังเห็นว่า บางรายที่ตนไม่ส่งสินค้า ก็ไม่ถูกผู้เสียหายรายใดติดตามทวงเงินแต่อย่างใด บางครั้งได้ใจจึงส่งบางเป็นบางราย จนมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้ โดยผู้ถูกจับได้กล่าวสำนึกในการกระทำผิดของตนในครั้งนี้และครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความคึกคะนองและการใช้จ่ายแบบฟุ่ยเฟือย ของตน ที่เกินตัวเกินไป โดยไม่คิดถึงผลกระทบหรือผลที่จะตามมา จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลจับกุม จึงได้สำนึกปรับปรุงตัวและรับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลว่า จะล้างมือจากพฤติกรรมที่ไม่ดีดังกล่าว เพราะ ตนต้องใช้ชีวิตอย่างระวาดระแวง กลัวลูกค้าจะมาทำร้ายร่างกายหรือทำอันตรายตนขณะออกไปข้างนอก และยังต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ให้พ้นจากการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หลังจากนี้จะยินยอมชดใช้กรรมที่ตนเองก่อขึ้นให้หมด และใช้ชีวิตใหม่หลังจากที่พ้นโทษของตนที่ได้ก่อขึ้น
จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษพบผู้ต้องหามีหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย 1.หมายจับของศาลอาญาที่ 9/2567 ลง 3 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” 2.หมายจับของศาลสมุทรสาครที่ 90/2566 ลง 21 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป