กองปราบบุกทลายเครือข่ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ใน จ.ขอนแก่น ยึดฮอนด้า เวฟ ของกลาง 9 คัน สารภาพส่งข้ามโขงขายนายทุนชาวลาว คันละ 5 พันบาท
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแฮด และ สภ.เมืองขอนแก่น สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายลักรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ” เข้าตรวจค้น 4 จุด ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย น.ส.สุภาวดี พินิจกุล อายุ 25 ปี, นายโชคชัย แก้วมณี อายุ 44 ปี, น.ส.กวิณณา หาญสุรีย์ 31 ปี, นายสิรินทร์ สุวรรณเวช อายุ 34 ปี และ นายธนพล งาดี อายุ 23 ปี พร้อมของกลางรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น Triton 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ที่โจรกรรมมาจำนวน 9 คัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายปี 66 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุตระเวนลักรถ จยย. ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง มากกว่า 30 คัน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านจำนวนมาก จากนั้นเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น Triton ต้องสงสัย บรรทุกรถจักรยานยนต์ 4 คัน ไปจอดริมแม่น้ำโขง จึงได้เข้าตรวจสอบ พบหญิง 1 คน และชายอีก 3 คน เป็นผู้ขับขี่ โดยทั้งหมดอ้างว่ารถจยย.ทั้งหมดของญาติ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อได้ขนรถ จยย.ลงจากรถกระบะเพื่อตรวจสอบ ระหว่างนั้นเอง กลุ่มคนร้ายได้ฉวยโอกาส ทิ้งรถ จยย.ทั้ง 4 คันไว้ และวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะขับหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่ารถ จยย.ที่ยึดได้ เป็นรถที่ถูกแจ้งลักทรัพย์ไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ส่วนเจ้าของรถยนต์กระบะคือ น.ส.สุภาวดี โดยแก๊งดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ ก่อนนำกำลังจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว
สอบสวน น.ส.สุภาวดี ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับ นายโชคชัย สามี ตระเวนลัก จยย.ตามหอพัก อพาร์ตเมนต์ และบ้านพัก โดยเลือกพื้นที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและลับตาผู้คน โดยมีนายทุน จาก สปป.ลาว เป็นผู้สั่งการ ให้ขนไปวางตามจุดริมโขง ก่อนข้ามไปยัง สปป.ลาว ได้รับค่าจ้างคันละ 5,000 บาท
ส่วน น.ส.กวิณณา และ นายสิรินทร์ สองสามีภรรยา รับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุมามากกว่า 20 ครั้ง นำรถที่ลักได้บางส่วนไปขายให้กับ นายธนพล ในราคาคันละ 4,000-5,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป