ป.ป.ช.ชี้มูล "ชัยวัฒน์" หักเขี้ยวพญาเสือ อุปสรรคการฮุบป่า ?

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ ป.ป.ช.ชี้มูล "ชัยวัฒน์" หักเขี้ยวพญาเสือ อุปสรรคการฮุบป่า ?



พญาเสืออย่าง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ก็มีอันต้องเสียจังหวะการไล่ล่าพวกปล้นที่ดินเขาใหญ่ เมื่อ ป.ป.ช. ออกมาชี้มูลความผิดของนายชัยวัฒน์ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 จากกรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการห้วยคมกริชในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2556 ขณะนายชัยวัฒน์ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตอุทยานแก่งกระจาน กล่าวหาว่าก่อสร้างผิดแบบ และเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทที่ยื่นประมูลภายใต้งบประมาณ 3.6 ล้านบาท

การออกมาชี้มูลความผิดของ ปปช. ต่อนายชัยวัฒน์ ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายของใครต่อใครที่มองภาพล่วงหน้าตั้งแต่วันที่นายชัยวัฒน์ออกมาเปิดศึกตะลุมบอนกับ ส.ป.ก. ที่ใช้อำนาจเข้าไปปักหมุดและออกเอกสารครอบครองพื้นที่ในเขตอนุรักษ์เขาใหญ่ ให้แก่ผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง

เพราะการกระทำของนายชัยวัฒน์แม้จะได้รับเสียงเชียร์และความชื่นชมจากคนวงนอกที่รักหวงแหนป่า แล้วรู้เท่าทันแผนการอัปยศที่วางหมากให้เอกสาร ส.ป.ก. สามารถแปลงเป็นโฉนด เพื่อการซื้อขายถ่ายโอนได้หลังครอบครองครบ 5 ปี

แต่การทำหน้าที่ของชัยวัฒน์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการกวักมือเรียกฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่อยู่ในเงามืด และเปิดเผย ให้เข้ามาร่วมกันสหบาทา หรือยืมมือหน่วยงานที่มีอำนาจให้จัดการกับนายชัยวัฒน์ เพื่อให้เคลื่อนไหวต่อได้ยากลำบากขึ้น

แม้การชี้มูลของ ปปช. อาจจะไม่มีผลอย่างทันทีทันควัน แต่สิ่งที่ได้แน่ ๆ ก็คือ การ discredit ทำลายความน่าเชื่อถือและคะแนนนิยมที่พญาเสือรักป่า อย่างนายชัยวัฒน์โกยแต้มเข้าใส่กระเป๋าตนเองอย่างท่วมท้น ในช่วงแรกที่ออกมาเปิดโปงกรณี ส.ป.ก. รุกป่าเตรียมแปลงร่างเป็นโฉนดในอีก 5 ปี ข้างหน้าตามที่กล่าวมาข้างต้น

อย่างไรก็ตาม การออกมาชี้มูลความผิดของนายชัยวัฒน์ ในขณะที่ กำลังเปิดศึก ส.ป.ก. ในปัจจุบัน ก็ไม่อาจลบล้างความเคลือบแคลงใจของสังคมและคนไทยทั้งประเทศที่มีคำถาม ทะลวงหัวใจผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เป็นผู้ผลักดันกฎหมายให้ ส.ป.ก. สามารถแปลงร่างเป็นโฉนดได้ว่า

วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเปิดช่องให้เปลี่ยนแปลง ส.ป.ก. เป็นโฉนด คืออะไรกันแน่ ?

ใครก็ตามที่เป็นต้นคิดยุทธศาสตร์นี้ ลืมแล้วหรือว่า รากเหง้าที่แท้จริงของ ส.ป.ก. คือเจตนาบริสุทธิ์ในการนำที่ดินของรัฐที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวน 22 ล้านไร่ ไปจัดสรรให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ใช้เป็นที่ทำกิน

เหตุใดจึงมีการสมคบคิดที่จะผลักไสให้เกษตรกรละทิ้งวิถีอาชีพทำกินของตน ด้วยการลงทะเบียนขอเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินแล้วขายให้แก่นายทุนรับเงินก้อนโตไปตั้งต้นชีวิตใหม่ จบสิ้น การเป็นเกษตรกรไปตลอดกาล

และจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว หรือจะเข้าตำราว่า การนิ่งเฉยเท่ากับเป็นการยอมรับความจริง

ทั้งนี้หากไม่มีกรณีของพญาเสืออย่างนายชัยวัฒน์ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของ ส.ป.ก. นครราชสีมา สังคมไทยก็คงจะ ยังไม่ตื่นรู้ว่า หมุดเขตของที่ดิน ส.ป.ก. ไปปักอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถึง 42 แปลง คิดเป็นเนื้อที่มากกว่า 2,900 ไร่

ซึ่งนั่นแปลว่า “พื้นที่ทำเลทอง” ซึ่งจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า มีโอกาสที่จะถูกฮุบไปเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทุนทั้งที่เป็นคนไทยและนอมินีของต่างชาติโดยไม่ต้องสงสัย

และผืนป่าเขาใหญ่ซึ่งเป็นมรดกโลก ก็จะเว้าแหว่งสูญหายไปเป็นลำดับ เช่นเดียวกับผืนป่าและที่ดิน ส.ป.ก. ในภูมิภาคอื่นๆ ที่พร้อมจะใช้ “เขาใหญ่โมเดล” เป็นแบบฉบับในการฮุบ ทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน

ล่าสุดแม้ว่าจะมีการย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. นครราชสีมา เข้าส่วนกลาง โดยให้ข่าวว่าเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าหารือในการประชุม ครม. 20 กุมภาพันธ์ เพื่อปลดชนวนข้อพิพาทระหว่าง 2 หน่วยงาน
แต่มันก็คนละประเด็นกับกฎหมายที่เปิดทางให้ ส.ป.ก. แปลงร่างเป็นโฉนด ซึ่งกลายเป็นช่องทางกอบโกยของนายทุนและผู้บุกรุกที่จะกลืนกินที่ดินได้อย่างสะดวกโยธิน

ดังนั้นคนไทยต้องช่วยกันเรียกร้องให้มีการทบทวนกฎหมายฮุบป่าที่เอื้อนายทุนเพื่อรักษาไว้ซึ่งมรดกไทยและมรดกโลก

--------------------------------

**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android