ตร.โคกคราม ส่งสำนวนเห็นควรฟ้อง 5 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านเพื่อนย่านรามอินทรา อ้างไม่มีคนอยู่ใช้สิทธิ์ “ครอบครองปรปักษ์”อัยการนัดฟังคำสั่ง 6 มี.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้นัดส่งตัว 5 ผู้ต้องหา พร้อมสำนวนคดีพร้อมความเห็นสั่งฟ้อง กรณีลักลอบเข้ามายึดบ้านและฟ้องครอบครองปรปักษ์บ้านทาวน์โฮม ภายในซอยรามอินทรา 58 แยก 6 ในข้อหา บุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์มากกว่า 3 คน
โดยปรากฏว่าทั้ง 5 มาครบทุกคน พร้อมกับทนายความ คือนายวัฒนา เรืองแก้ว ส่วนผู้ถูกกล่าวหามาในลักษณะคลุมหน้าคลุมตามิดชิด เดินก้มหน้าตามทนายความขึ้นไปชั้น 2 โดยไม่ตอบคำถามสื่อแม้แต่คำถามเดียว โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ศรีพรรณ สามัคคี (แม่บ้าน) ,น.ส.ภาณุมาศ สามัคคี หรือ นุ ,นางนิตยา สามัคคี (ญาติของนุ), นายพลกฤษณ์ ทองคำ (ถือหุ้นบริษัทคู่กรณี) ,นางมาลี ชินน้อย (เพื่อนบ้าน) ซึ่งนายพลกฤษณ์ มีชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทคู่กรณี ซึ่งเป็นคู่สัญญากับการประปานครหลวง
สำหรับขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ขั้นตอนการรายงานตัวกับชั้นพนักงานอัยการ สามารถยื่นประกันตัวได้ ทำให้วันนี้นายภคิน ทิมกุล หรือซัน ผู้รับมอบอำนาจจากอากู๋ เดินทางมาพร้อมกับทีมทนายความเดชาเพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัว
นายภคิน หรือซัน เปิดเผยว่า วันนี้ตนมายื่นคัดค้านการประกันตัวผู้บุกรุกเนื่องจากเขาได้บุกรุกครั้งที่ 2 จึงอยากให้ทางอัยการเมตตา ส่วนตัวพวกเราห่วงเรื่องความปลอดภัย ไม่รู้ถ้าได้ประกันจะมาทำลักษณะเดียวอีกหรือไม่ ทั้งนี้จะยื่นคัดค้านทั้งหมด 5 คน ที่เคยเป็นคดีตั้งแต่ปีที่แล้ว จากพฤติการณณ์ครั้งแล้ว เขาบอกจะคืนบ้าน เราได้ไปล็อกกุญแจ แต่พอต้นปีกลับบุกเข้ามาบ้านอีกรอบเมื่อ 8 ก.พ.
ทางด้านคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้พาคู่กรณีทั้งหมด 5 คน มาพบอัยการ มี 3 ข้อหา คือ บุกรุก ,ลักทรัพย์ ,ทำให้เสียทรัพย์มากกว่า 3 คนขึ้นไป ตั้งแต่มีฟ้องร้องยังไม่มีการติดต่อเข้ามา แต่ตนจะไม่มีไกล่เกลี่ย ไม่ขายให้ เพราะเขาดูไม่เกรงกฎหมาย
เมื่อถามถึงคดีการฟ้องครอบครองปรปักษ์ คดีถึงขั้นตอนไหน นายภคิน กล่าวว่ายังไม่ถึงขั้นสืบพยาน เนื่องจากทางตนได้ยื่นฟ้องคัดค้านเมื่อวันที่ 29 ม.ค. และศาลนัดอีกครั้ง 18 มี.ค.ส่วนเรื่องค่าเสียหายให้ไปคุยกันในชั้นศาลเลย ยืนยันว่าไม่ไกล่เกลี่ยใดๆแล้ว
นายภคิน ยังกล่าวอีกว่า หลังจากก่อนหน้านี้ที่ตนเองพร้อมทนายความและตำรวจสน. โคกครามบุกเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวและไปตัดกุญแจพร้อมกับปลดป้ายไวนิลออก คู่กรณีก็ไม่มีการติดต่อพูดคุยแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่มีการข่มขู่หรือคุกคาม พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจาพูดคุยขอให้คดีความ เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาของศาล
นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาสำนวนว่า หลังจากพนักงานสอบสวนนำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหามาส่งให้ พนักงานอัยการ อัยการจะใช้เวลาในการพิจารณาสำนวนไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนอะไร และคาดว่าจะมีความเห็นทางคดีได้ ว่าจะมีความเห็นฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่ ทั้งนี้ อัยการนัดฟังคำสั่ง วันที่ 6 มี.ค.2567