MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส. เผยโครงการ Quick Win รอบ 2 เดือน นำผู้ป่วยจิตเวชใหม่เข้าบำบัด ด้าน ผบช.ปส. ชี้ผลจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชนสูงกว่าปีก่อน 9,222 คดี
วันนี้ (13 ก.พ.) ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. แถลงผลปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปี Quick Win (ห้วง 1 ธ.ค. 66 – 13 ก.พ.67)
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ระยะเวลา 1 ปี เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยต้องดำเนินการในทุกมิติ และใช้มาตรการ 3 ป. (ปลุก , เปลี่ยน , ปราบ) ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ปราบปราม สกัดกั้น ยึดทรัพย์ผู้ค้า และจัดการเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า การลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลได้สำรวจและวางเป้าหมายดำเนินการในพื้นที่เร่งด่วนที่มีปัญหาจิตเวชรุนแรงใน 85 อำเภอ 30 จังหวัด จำนวน 4,414 คน ขณะนี้ได้ดำเนินการนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้วจำนวน 4,004 คน คิดเป็น ร้อยละ 90 ในขณะเดียวกันได้นำผู้ป่วยจิตเวชรายใหม่นอกเหนือการสำรวจเข้าสู่กระบวนการบำบัดอีก จำนวน 1,260 คน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยต่อว่า ปัญหาจิตเวชจากยาเสพติดส่งผลกระทบโดยตรงกับความปลอดภัยของประชาชน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้มาก และผลจากความร่วมมือของหลายฝ่าย ทั้งสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร มหาดไทย ทำให้สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นโดยข่าวผลกระทบจากยาเสพติดเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2566 มีแนวโน้มลดลง
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงผลยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ว่า ปฏิบัติการทุกเดือนๆ ละ 2 ครั้ง ทั่วประเทศ เป้าหมาย 2,007 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1,142 คน ผู้เสพ 820 คน ของกลางยาบ้า 82,546 เม็ด ไอซ์ 617.27 กรัม คีตามีน 1,160.52 กรัม เฮโรอีน 92.20 กรัม เอ็กซ์ตาซี 200 เม็ด ฝิ่นดิบ 2,236 กรัม และยึดทรัพย์สิน 187,775,867 บาท
“การปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 261 เครือข่าย ดำเนินการต่อข้อหาสมคบสนับสนุนช่วยเหลือ ผู้อยู่เบื้องหลัง เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด จำนวน 297 คน จับกุมแล้ว 125 คน ยึดอายักทรัพย์สิน 221,451,354 บาท” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าว
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวเสริมว่า จุดแตกหักที่สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ ชุมชน ครอบครัว การมีชุมชนเข้มแข็งที่ตระหนักถึงปัญหาและลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติด และสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งการเดินหน้าแก้ไขปัญหาจิตเวช หรือยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยที่ลงชุมชนอย่างต่อเนื่อง กลไกในระดับพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต่อการดำเนินงานของรัฐบาล ให้เกิดกระแสความตื่นตัวของชุมชนที่จะร่วมกันแก้ไขความรุนแรงของปัญหายาเสพติด
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชน ปีงบ 66 (ต.ค.65 - ม.ค.66) จำนวน 22,849 คดี และในปีงบ 67 (ต.ค.66 - ม.ค.67) จำนวน 32,071 คดี เพิ่มขึ้น 9,222 คดี คิดเป็นร้อยละ 40.36 นอกจากนี้ยังมีโครงการลดความรุนแรงผู้ป่วยจิตเวชก่อเหตุคลุ้มคลั่ง นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาให้ครบ 7,000 ราย ภายในวันที่ 27 ก.พ.67 และโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล นำผู้เสพเข้าโครงการให้ได้ อย่างน้อย 20,000 คน
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนรัฐบาลยังได้ดำเนินการต่อผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับไปยังต่างประเทศ โดยใช้มาตรการต่างประเทศเชิงรุกควบคู่ไปกับการสืบสวนปราบปราม ทำให้สามารถจับกุม นายปัณณวิชญ์ ประทุม หรือโก๋แก่ มันทุกเม็ด ที่ประเทศเมียนมา เมื่อเดือน ม.ค.67 ซึ่งมีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดผ่านเฟซบุ๊ก มีกลุ่มบัญชีม้าจำนวนมากนับเป็นเครือข่ายรายใหญ่มีเงินหมุนเวียนกว่าพันล้านบาท รวมทั้งจับกุม นายบียอน ลิม ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำคีตามีนส่งจากไทยทางพัสดุ ไปสิงคโปร์ ที่เชียงใหม่ และก่อนหน้านี้ นายอ่อง กิม วาห์ ที่ สปป.ลาว โดยขณะนี้มีเป้าหมายในประเทศ 122 คน จับกุมแล้ว 4 คน เป้าหมายนอกประเทศ 91 คน จับกุมแล้ว 3 คน