อสส.ตั้ง’วัชรินทร์’ ร่วมสอบคดี’โกฟุก ระนอง’ผู้ต้องหารายสำคัญ เลี่ยงภาษีน้ำมัน 1.8 หมื่นล้าน นัดประชุมคดีร่วมดีเอสไอ 13 ก.พ.นี้
วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้มีหนังสือ เชิญนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมประชุม คดีพิเศษที่ 116/2563 ที่มีการกล่าวหา ผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ อันอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ประมวลรัษฎากร และประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งอัยการสูงสุดพิจารณาให้คดีพิเศษที่ 116/2563 เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรไทย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 (ที่ให้อำนาจการสั่งคดีและสอบสวนคดีนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด หรือ อสส.มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดี) ซึ่งอัยการวสูงสุดได้มอบหมายให้นายให้นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือผู้รักษาการแทนป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ซึ่งในวันที่ 13 ก.พ. เวลา 13.00 น.จะมีการประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางการสอบสวนของคดีพิเศษ ที่ ห้องประชุม 1อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 1 ถนนแจ้งวัฒนะ
สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีการกล่าวหาเครือข่าย นายสง่า กังวาลหรือ ‘โกฟุก’อายุ 60 ปี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตรวจพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกระบวนการฉ้อภาษี ในการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศที่เป็นเท็จแล้วนำมาขอคืนภาษี โดยเบื้องต้นพบว่ามีการดำเนินการ ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ทำให้รัฐสูญเสียภาษีกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายผลจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้กองคดีฟอกเงินทางอาญา เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมเครือข่าย ‘โกฟุก’ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับรายสำคัญของศาลอาญา ในคดีฟอกเงิน จากพนันออนไลน์ อันเป็นความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนันภายใต้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน, นพเก้า, นาคราช, ชอบหวย, ล้อตโต้เอ็มเอ็ม, ดีเอ็นเอ,เยเย่ และอื่นๆ เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท จึงรับไว้ทำการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งการตรวจค้นครั้งนั้น ดีเอสไอพุ่งเป้าหมายเข้าตรวจค้นจำนวน 27 จุด ในพื้นที่หลายจังหวัด รวมทั้งติดตาม จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ รวม 18 คน จากการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากความผิดเรื่องพนันออนไลน์และฟอกเงินแล้วยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกระบวนการฉ้อโกงภาษีน้ำมันในกว่า1.8 หมื่นล้านบาท จึงได้มีการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ
มีรายงานล่าสุดว่าศาลรัฐบาลทหารประเทศเมียนมาได้มีการออกหมายจับ ‘โกฟุก’ ในข้อหาการพนันออนไลน์และข้อหาฉ้อโกงภาษีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาเเล้ว