สายไหมต้องรอดพาเซเลบสาวขึ้น สน.ประเวศ ติดตามความคืบหน้าคดีหนุ่มไฮโซลูกชายนักการเมือง ใช้กำลังพยายามกระทำอนาจารในบ้าน ยืนยันไม่ใช่การแบล็คเมล มอบหลักฐานผลตรวจร่างกายให้ตำรวจแล้ว เผยมีบาดแผลหลายแห่งจากความพยายามวิ่งหนี รอง ผกก.เผยผู้ก่อเหตุติดต่อตำรวจแล้ว
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ สน.ประเวศ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พร้อม น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขาฯ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายวัย 25 ปี เซเลบสาว มาติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูก ไฮโซหนุ่ม ลูกชายของนักการเมืองพรรคดัง อายุ 27 ปี ลูกชายนายอภิชัย เตชะอุดม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พยายามใช้กำลังและกระทำอนาจาร เหตุเกิดที่บ้านพักแขวงหนองบอน เขตประเวศ เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
น.ส.เอ กล่าวว่า ตนพบคู่กรณีที่ร้านก่อนถูกพาไปก่อเหตุ จากนั้นกลับไปทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าไม่อยากให้มาเกิดซ้ำกับใครอีก จึงต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการของกฎหมาย โดยวันนี้ได้นำเอกสารการตรวจร่างกายจากแพทย์มามอบให้ตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งบาดแผลต่างๆ ตามตัวนั้นเกิดจากการพยายามวิ่งหนี เพราะผู้เสียหายถูกฉุดกระชาก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุนั้น เป็นเพื่อนในวงสังคมเดียวกัน และยืนยันว่า การแจ้งความนี้ ไม่ใช่การแบล็คเมล เพราะแจ้งตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว และต้องการดูท่าทีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งไม่มีท่าทีจะสำนึกผิดหรือแสดงความขอโทษกับการกระทำ
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีความรู้พอสมควร จึงประสาน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากครอบครัวผู้ก่อเหตุเป็นคนใหญ่โต แต่จะเป็นใครนั้นไม่สำคัญ อย่าคิดว่าร่ำรวยใหญ่โตแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี ทางที่ดีควรออกมาขอโทษด้วย เพราะครอบครัวผู้เสียหายก็มีฐานะและไม่ได้เรียกร้องเงิน
ขณะที่ พ.ต.ท.พีรวัฒน์ สุขรมย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ประเวศ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย พร้อมสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเหลือพยานอีก 1 ปาก ที่เป็นผู้พาผู้เสียหายออกจากที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้มีพยานหลักฐานครบ วันนี้จึงเตรียมออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่เหตุที่ไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากโทษทางคดีสั่งจำคุกไม่เกิน 3 ปี และผู้ก่อเหตุมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุติดต่อมาหาตำรวจแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใดทางคดี ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลหรือมีบุคคลใดมากดดัน