xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอ ขยายผลรวบ 3 ผู้ต้องหาแก๊งทำบัตรประชาชนปลอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ค้นเป้าหมาย ขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญ หน้าที่บัญชีม้า ขบวนการทำบัตรประชาชนปลอม

วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ห้องแถลงข่าว อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พ.ต.ท.พเยาว์  ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมแถลงการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 98/2566 (คดีทำบัตรประชาชนปลอม) ขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญ

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 8 ก.พ.67 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ร่วมกับกรมการปกครอง และ ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังร่วมกันตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้ต้องหาหมายจับในคดีพิเศษที่ 98/2566 จำนวน 3 จุด พร้อมกัน ได้แก่ พื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.อ่างทอง ผลการตรวจค้นได้จับกุม

1.นายเหม (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายศาลอาญาที่ 4798/2566 ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ในการจ่ายค่าเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้
เป็นบัญชีม้าแล้วนำไปกระทำความผิดต่างๆ ตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 1 มี.ค.66 มีการโอนเงินไปบัญชีธนาคารอื่นๆ ในยอดเงิน 500 บาท จำนวน 248 รายการ คณะพนักงานสอบสวน
คดีพิเศษได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารผู้รับโอนเงิน พบว่าเป็นชื่อบัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการหลอกลวงเงิน
จากผู้เสียหายด้วยวิธีการต่างๆ อีกหลายราย

2.น.ส.วิมลณัฐ อายุ 19 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายจับศาลอาญาที่ 4797/2566 ในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 3

3.น.ส.วลีรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายจับศาลอาญาที่ 376/2567 ในพื้นที่จ.อ่างทอง โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารซึ่งแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 1 ซึ่งผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวกว่า 20 ราย มีเงินโอนเข้าบัญชีรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เป็นแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมหลอกลวงชาวต่างชาติ มีพฤติการณ์ใช้เฟซบุ๊ก 2 เพจคือ “เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ ทำบัตร” และ “รับสิทธิ์ลงทะเบียน” โฆษณารับทำบัตรประชาชน โดยอ้างว่าสามารถใส่ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองได้ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันนําข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ร่วมกันฉ้อโกง/ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น/ฉ้อโกงประชาชน เป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานฟอกเงิน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ”

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมการปกครอง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ว่ามีกลุ่มบุคคลได้จัดทำเฟซบุ๊กชื่อ “เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ ทำบัตร” และเฟซบุ๊ก “รับสิทธิ์ลงทะเบียน” ลงข้อความและรูปภาพโฆษณารับทำบัตรประชาชน โดยอ้างว่าสามารถใส่เพิ่มข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองได้ มีการนำภาพบัตรประชาชนที่อ้างว่าเป็นของลูกค้ารายอื่น และรูปถ่ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาลงประกาศ (โพสต์) ในเฟซบุ๊กข้างต้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะทำบัตรประชาชนจะต้องเสียค่าดำเนินการ จำนวน 15,000 - 25,000 บาท และมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน แต่ไม่ได้รับบัตรประชาชนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 98/2566 และเมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว จำนวน 3 ราย ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.นครสวรรค์ และ จ.นนทบุรี โดยทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนดังกล่าวส่งอัยการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.67 ที่ผ่านมา
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ถูกหลอกลวงโดยกลุ่มคนร้ายและได้โอนเงินเพื่อทำบัตรประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ และขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด หากเคยรับจ้างหรือถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น ขอให้ท่านดำเนินการปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็วเนื่องจากหากกลุ่มคนร้ายนำบัญชีของท่านไปใช้ในการรับเงินที่ได้จากการกระทำความผิดท่านอาจถูกดำเนินตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี






กำลังโหลดความคิดเห็น