รวบตัว 2 โจ๋คู่แฝดปาแก้วเยติใส่หน้าคู่อริ ก่อนรถจยย.เสียหลักลงข้างทาง จนเป็นเหตุเสียชีวิต อ้างป้องกันตัวหลังถูกผู้ตายนำท่อนเหล็กเข้ามาตีก่อน
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 17.30 น. บริเวณถนนเลียบคลองขุนศรี นายปรีชา ชอบใช้ อายุ 22 ปี อาชีพพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย ถูกวัยรุ่นชาย 2 คน ขี่รถจยย.ประคบคู่ก่อนจะเขวี้ยงแก้วเยติซึ่งเป็นแก้วสแตนเลสใส่เข้าที่ใบหน้า จนทำให้รถจยย.ที่นายปรีชา ขี่มาเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายพงศกร พันกลับ อายุ 18 ปี และนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและมีบ้านพักอยู่ที่หมู่ 1 ต.ไทรใหญ่ เวลาออกไปไหนจะไปด้วยกันตลอดจนชาวบ้านตั้งฉายาทั้งคู่ว่า "แฝดนรก" เพราะเคยก่อเหตุลักษณะนี้และมีคดีติดตัวอยู่หลายคดี
วันที่ (9 ก.พ. 67) เวลา 10.00 น. ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เข้าพบ พ.ต.ท.อาจณรงค์ วงษ์ภาพ รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาได้สองคน คือ นายพงศกร พันกลับ อายุ 18 ปี และนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี โดยทั้งสองคนนี้ไม่ใช่เป็นพี่น้องกัน แต่เป็นเพื่อนกัน ชอบไปไหนด้วยกันชาวบ้านจึงเรียกว่าเป็นคู่แฝด
ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนว่า "ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย" ส่วนพฤติการณ์ทางคดี ด้านคนก่อเหตุและคนตายนั้นมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น ทั้งคนก่อเหตุและผู้ตายก็เจอหน้ากันก็มีการประทะคารมแล้วก็แยกย้าย และตอนเย็นก็มีการขับรถสวนกันอีกรอบ ก็เกิดการโต้เถียงกัน ช่วงระหว่างที่ขับขี่รถก็มีปะทะถีบรถกัน หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็กลับรถมาหากันอีกรอบ ฝั่งผู้ตายนั้นได้ถือเหล็กยาวประมาณ 1 ฟุต พยายามที่จะตีใส่คนก่อเหตุ ส่วนคนก่อเหตุก็ป้องกันตัวโดยใช้แก้วเยติที่อยู่ในมือขว้างเข้าไปโดยโดนที่ใบหน้า ทำให้ผู้ตายนั้นเสียหลักตกลงข้างทางได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งคดีนี้ไม่ซับซ้อน ส่วนญาติที่บอกกับนักข่าวว่าไม่รับแจ้งความและไล่ไปหาหลักฐานเองและบอกว่าจบงานศพค่อยมาแจ้ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ทางพนักงานสอบสวนได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสองคนก่อน รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานได้ทั้งหมด ก่อนที่จะเสร็จสิ้นงานศพ
สอบถามนายพงศกร ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ทางฝั่งผู้เสียชีวิตเป็นฝ่ายหาเรื่องตนก่อนและพยายามจะเอาท่อนเหล็กมาตีพวกตน พวกตนจึงต้องป้องกันตัวปาแก้วเยติใส่ไป ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนเพราะฝั่งผู้เสียชีวิตเอาเหล็กมาตีที่รถของตนก่อน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เสียชีวิต
ทางด้าน ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า หลังจากตนได้รับเรื่องมาจากสส.นนท์ เขต 8 ว่าชาวบ้านกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่มีใครมาช่วยเหลือเรื่องคดี ตนเลยได้เข้ามาดูแล ตอนแรกในสำนวนได้มีการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้แล้ว แต่ในข้อกฎหมายต้องปล่อยตัวไปก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานเร็วมาก เพียง 3 วัน ก็สามารถส่งตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องและไปฝากขัง คาดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตำรวจไม่รับแจ้งความน่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ตอนนี้คดีเรียบร้อยแล้ว คดีนี้ทางผู้เสียชีวิตเป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม ตนได้ให้ทีมงานประสานให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตมาติดต่อที่โรงพักเพื่อขอสำนวนในคดีไปส่งที่ยุติธรรมจังหวัดและขอรับเงินเยียวยา ประมาณ 200,000 บาท ตนได้ให้ทีมงานดำเนินการและเร่งรัดเพื่อช่วยเหลือ ชาวบ้านอาจจะไม่รู้ข้อมูล เราจึงได้เร่งดูแลและช่วยเหลือ