xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ผู้พิการโยก 3 ล้อ ถ่อสังขาร เข้ากรุง ตบหน้าข้าราชการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดี ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ตอน ผู้พิการโยก 3 ล้อ ถ่อสังขาร เข้ากรุง ตบหน้าข้าราชการ



ปรากฎการณ์สามล้อโยกของ 'มณฑล เพ็ชรสังข์' อายุ 48 ปี ที่ใช้สองมือโยกสามล้อสำหรับคนพิการของตัวเองเดินทางจากสุโขทัยเข้ามากรุงเทพมหานคร เพื่อยืนยันสิทธิความเป็นคนพิการต่อหน้ากรมบัญชีกลาง ในมุมหนึ่งหลายคนอาจมองว่าสิ่งที่ชายพิการเกรี้ยวกราดใส่เจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามให้ความช่วยเหลือ อาจเป็นเพียงแค่การเรียกร้องความสนใจและหาแสงใส่ตัว

แต่อีกด้านหนึ่งต้องอย่าลืมสิ่งที่เขาได้ถูกกระทำมาจากเจ้าหน้าที่รัฐที่รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชนเช่นกัน

นายมณฑล กล่าวเปิดใจผ่านสื่อมวลชนที่เดินทางมาทำข่าวว่า "ไม่ได้หิวแสง ไม่ได้ต้องการเป็นข่าวดัง เพียงแต่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการโยกรถสามล้อคนพิการจากอ.ศรีสัชนาลัย มายังกรุงเทพฯ เพื่อทวงสิทธิ์ให้กับคนพิการทั้งประเทศ เนื่องจากเชื่อว่ายังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่ถูกตัดสิทธิ์โดยไม่ชอบธรรม จึงต้องการจะโยกรถสามล้อคนพิการไปยังกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้พิการต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง เพราะไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือในตอนแรก มีแต่การปฏิเสธปัดกันไปมา"

ย้อนกลับไปดูปฐมเหตุก่อนที่นายมณฑลจะตัดสินใจเดินทางกว่า 400 กิโลเมตรเข้ากรุงเทพ พบว่าเขาต้องรับแรงกระแทกจากการบริการที่ด้อยคุณภาพของหน่วยงานภาครัฐมาสารพัด เริ่มตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มเป็นประสบอุบัติเหตุพลัดตกตึกชั้น 6 ตั้งแต่ปี 2557 ทำให้ขาพิการ 2 ข้าง และกลับบ้านเกิดไปทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ได้รับเงินช่วยเหลือสวัสดิการของคนพิการเดือนละ 800 บาท ปี 2563 ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ พอไปตรวจสอบที่ อำเภอศรีสัชนาลัย เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถูกตัดสิทธิผู้พิการ บัตรประชาชนก็ไม่สามารถทำได้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรศรีสัชนาลัย

เมื่อไปแจ้งความตำรวจออกเอกสารทะเบียนราษฎรให้ และบอกต้องไปยืนยันสิทธิด้วยตนเองที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพมหานคร พอเป็นข่าวดังไปทั่วเสมือนหนึ่งตบหน้าหน่วยงานภาครัฐ จึงได้เห็นกรมบัญชีกลางออกมาชี้แจงอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่นายมณฑลถูกตัดสิทธิ์

จนเกิดคำถามว่าถ้าไม่ตัดสินใจออกมาเสี่ยงตายบนถนนสายเอเชีย หน่วยงานรัฐจะออกมาลูบหลังชายพิการคนนี้ ตามที่เห็นในภาพข่าวหรือไม่

ลองไล่เรียงสิ่งที่เป็นปัญหา คือ ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดสุโขทัย ไม่อาจอำนวยความสะดวกให้กับนายมณฑล ทำไมชี้นิ้วสั่งให้ต้องเดินทางมากรุงเทพฯด้วยตัวเอง เรื่องทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นข้าราชการทำหน้าที่ให้สมกับตำแหน่งที่ประดับบนบ่า มองประชาชนเป็นพลเมืองหนึ่งของสังคม ไม่ใช่มองประชาชนเป็นปัญหาของสังคม

ทุกวันนี้ใครไปติดต่อราชการเพื่อทำธุรกรรมทางปกครอง ต่างส่ายหัวกันหมด แต่ก็ต้องยอมเสียเวลาเดินทางและอดทนกับเจ้าหน้าที่บางคนที่ไม่มีประชาชนในหัวใจ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ระบบข้าราชการนับวันยิ่งใหญ่โต เกิดหน่วยงานใหม่ๆขึ้นมามากมาย แต่เป็นการเติบโตที่ไม่มีคุณภาพ เต็มไปด้วยไขมันส่วนเกิน แต่ปัญหาในเชิงโครงสร้าง ไม่ได้เป็นปัญหาเท่ากับคุณภาพของคนที่ให้บริการประชาชน ที่สวนทางกับความใหญ่โตของระบบราชการ

ที่สำคัญรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้อยู่ปัจจุบันที่อ้างกันว่าเป็นกฎหมายแม่บทของการปฏิรูปประเทศ ก็ระบุเป็นลายลักษณ์ให้อักษรว่าให้มีการปฏิรูประบบราชการเพื่อสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ ขอถามว่ารัฐธรรมนูญใช้มาเกือบ 7 ปีแล้ว รูปธรรมในเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ คำตอบก็เป็นอย่างที่เห็น

บางทีก่อนที่รัฐบาลจะคิดการใหญ่ตามนโยบายประชานิยม ควรหันกลับมามองเรื่องใกล้ตัวและลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อที่อย่างน้อยประชาชนจะได้รู้สึกว่าระบบราชการยังเป็นที่พึ่งได้ ไม่ใช่เป็นแค่ระบบที่ปล่อยให้คนทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนที่ผ่านมา

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น