“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ตอน 'ภูมิใจไทย' มาแปลก เดินเกมเปลี่ยนจุดยืน
การเมืองไทยเวลานี้ มีแต่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเท่านั้น ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมทางการเมืองที่เปลี่ยนไป และมีพรรคภูมิใจไทย เป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่งที่กำลังปรับตัวเช่นกัน
ภายหลังมีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. ….
เหตุผลของการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว และประเทศกำลังกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่บรรดาประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ใช้ตั้งแต่ช่วงเวลาของการยึดอำนาจก็ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
อีกทั้ง ในเวลาต่อมาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอีกจำนวนมาก ซึ่งบางฉบับมีเนื้อหาในทางจำกัดสิทธิของประชาชนที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันรับรองไว้ ประกาศและคำสั่งเหล่านี้จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
เพื่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นไปในทางที่ดี และสอดคล้องกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงสมควรที่จะยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่มีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพ
การเสนอร่างกฎหมายทำนองนี้ของพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดไปจากธรรมชาติของพรรคพอสมควร เพราะที่ผ่านมาถ้าใครติดตามการทำงานของพรรคภูมิใจไทยมาตลอดจะเห็นได้ว่า มักจะไม่ค่อยเสนอร่างกฎหมายหรือมีท่าทีใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องสิทธิเสรีภาพเท่าใดนัก
โดยพรรคภูมิใจไทยเลือกที่จะวางสถานะของพรรคไว้ที่การเป็นพรรคจังหวัดนิยมมากกว่าผ่านระบบที่เรียกว่า 'บ้านใหญ่' ทำให้เวลาพรรคภูมิใจไทยจะเสนอร่างกฎหมายเข้าสภาจึงให้ความสำคัญต่อการตอบสนองจุดยืนของพรรคหรือเพื่อสอดรับกับการทำงานของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนใหญ่
แต่เนื้อหาทางการเมืองของประเทศไทยในเวลานี้เปลี่ยนไปและแตกต่างจากสิ่งที่นักเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยเคยเจอมาก่อน และกำลังเป็นภัยคุกคามที่กำลังเล่นงานพรรคภูมิใจไทยอย่างไม่ทันตั้งตัวและมาเร็วกว่าที่คนในพรรคคิด
ดูได้จากตัวเลขผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 แม้ในภาพรวมพรรคภูมิใจไทยจะได้จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่ถ้ามองลงไปในรายละเอียดจะพบว่าพรรคภูมิใจไทยแพ้คะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคก้าวไกลหลายพื้นที่ จึงเหลือ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสภาเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น
ถ้าพรรคภูมิใจไทยมัวแต่เล่นการเมืองแบบเดิม ๆ อาจถูกคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงถล่มจนทำให้พรรคภูมิใจไทยสั่นคลอนแบบไม่คาดคิด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องทำงานในลักษณะเชิงนโยบายมากขึ้น ไม่ใช่แค่การบริหารกระทรวงในโควตาพรรคและดูแลพื้นที่ของตัวเองเหมือนกับที่เคยชินมาตลอดหลายทศวรรษ
ด้วยเหตุนี้เองจึงได้เห็นภาพของ 'อนุทิน ชาญวีรกูล' รองนายกรัฐมนตรีและเจ้ากระทรวงมหาดไทย ต้องลงพื้นที่จัดระเบียบสังคมตามผับ บาร์ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ค่อยชินตาเท่าใดนัก หรือ แม้แต่การไล่ล่าปราบปรามผู้มีอิทธิพลโดยอาศัยอดีตผู้มีอิทธิพลอย่าง 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหวังจะขยายฐานคะแนนของพรรคให้กว้างขึ้น
จากเดิมที่พรรคมักจะพอใจกับการแค่รักษาฐานที่มั่นของตนอย่าง บุรีรัมย์ อุทัยธานี อ่างทอง หรือจังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่อีสานใต้ หรือ ภาคใต้ตอนล่างบางส่วน
ที่ผ่านมา 'อนุทิน' ถือเป็นหนึ่งในสามคนที่ติดโผตัวเต็งท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีร่วมกับ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ของพรรคก้าวไกล และ 'แพทองธาร ชินวัตร' ของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ป็อปปูลาร์เหมือนกับสองคนหลัง แต่การเมืองกำลังจะมีจุดเปลี่ยนทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล หรือ แม้แต่กระแสต่อต้านพรรคเพื่อไทย
หากวันหนึ่งนายทักษิณ ชินวัตรได้รับอิสรภาพ ถึงจังหวะนั้นโอกาสที่ 'อนุทิน ชาญวีรกูล' ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวการเมืองมานาน ก็มีโอกาสจะเบียดไปถึงจุดสูงสุดในทางการเมืองได้เช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ต้องแต่งตัวเองใหม่ ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อน
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android