พริตตี้สาวร้องถูกเสี่ยใหญ่ จ.อ่างทอง จ้างงานเอน กลับโดนบังคับเสพยา-ข่มขืน ซ้อมจนน่วม

ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพาพริตตี้สาวผู้เสียหาย วัย 30 ปี ร้องขอความช่วยเหลือกับ รอง ผบ.ตร. หลังถูกเสี่ยใหญ่ใน จ.อ่างทอง จ้างไปเอนเตอร์เทน ก่อนถูกบังคับเสพยา ข่มขืน และถูกซ้อมจนน่วม

วันนี้ (7 ก.พ.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาพริตตี้สาว อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย ร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) หลังถูกเสี่ยใหญ่เจ้าของรีสอร์ตในจังหวัดอ่างทอง หลอกจ้างไปเอนเตอร์เทน แล้วถูกบังคับให้เสพยาก่อนลงมือข่มขืน และซ้อมทำร้ายร่างกาย จนใบหน้าบวมช้ำ ศีรษะปูดโน กระดูกปลายจมูกหัก เลือดในตาแตกทั้งสองข้าง นอกจากนี้ยังมีรอยฟกช้ำตามโต รักษาตัวนานเกือบ 2 สัปดาห์

โดยพริตตี้สาวผู้เสียกาย เปิดเผยว่า ตนเองรับงานเอนเตอร์เทนลูกค้าทั่วไป และเพื่อนแนะนำให้รู้จักเสี่ย บ. นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดอ่างทอง โดยเมื่อ วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เสี่ย บ. ได้ว่าจ้างตนเองไปเอ็นเตอร์เทนที่รีสอร์ตของเสี่ย ในจังหวัดอ่างทอง และยังบอกว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนมาปาร์ตี้ แต่เมื่อนั่งไปสักพัก ก็ไม่เห็นมีเพื่อนเสี่ยมา จากนั้นเสี่ยก็ชงเหล้าให้ตนเองดื่ม แต่เมื่อดื่มไปก็เมาอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเสี่ย บ. เล่าให้ตนฟังว่า ติดคุกไปปีกว่า เพิ่งออกจากคุกมาไม่นาน เมื่อได้ยินแบบนั้นทำให้เริ่มอยากกลับ แต่เสี่ย บ. ไม่ให้กลับ

จากนั้นเสี่ย บ. กัดยาเสพติดครึ่งหนึ่งกินเอง ส่วนอีกครึ่งยัดใส่ปากตน ก่อนบังคับให้กลืน จากนั้นตนก็มีอาการตัวช้า ขยับร่างกายไม่ได้ และยังถูกเสี่ยมอมเหล้าต่อเนื่องจนเริ่มไม่ไหว เสี่ยจึงยื่นยาเม็ดสีส้มให้อมใต้ลิ้น อ้างว่าเป็นยาแก้เมา แต่เมื่อกินเข้าไปก็ยิ่งขยับตัวไม่ได้ และถูกบังคับข่มขืนใจ

พอวันรุ่งขึ้นเสี่ยก็ยังบังคับให้ตนเสพยาไอซ์ ทำให้ร่างกายยิ่งแย่กว่าเดิม จนแทบไม่ได้สติ เมื่อขอกลับบ้าน เสี่ยก็ข่มขู่ไม่ให้กลับ จนวันที่ 4 เสี่ย บ. เริ่มหลอนยา เห็นภาพหลอน และมาทำร้ายร่างกายตน ทั้งเตะ ต่อย บีบคอ และเอาเท้าเหยียบหน้า เหยียบคอ

อีกทั้งขู่ว่าหากไปแจ้งความกับตำรวจในอ่างทอง เสี่ยอ้างว่าสามารถเคลียร์ได้หมด ตอนนั้นกลัวมาก พยายามยกมือขอร้องอ้อนวอน ร้องขอกลับบ้าน และบอกว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องที่ถูกซ้อมให้ใครรู้ หรือไปแจ้งความ เสี่ยจึงยอมให้กลับ โดยเสี่ยไปบอกแม่ว่าซ้อมตน แม่เสี่ยสงสารจึงพาตนไปส่งท่ารถตู้ เพื่อขึ้นรถกับกรุงเทพให้เงินติดตัวกลับมา 3 หมื่นบาท ซึ่งตนใช้เงินดังกล่าวมาเป็นค่ารักษาแผลจนเกือบหมด

ด้านนายเอกภพ บอกว่า ตอนแรกผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความ แต่เมื่อเพื่อนผู้เสียหายทราบเรื่อง ก็เห็นว่าจำเป็นต้องแจ้งความ และเพื่อนๆ ผู้เสียหาย ยังไปคุ้ยประวัติเสี่ยรายนี้ พบว่า มักจะมีพฤติการณ์หลอกพริตตี้ไปเอนเตอร์เทน แต่กลับถูกมอมยา บังคับขืนใจลักษณะแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง บางรายถูกทำร้ายและฉี่รดด้วย หลายรายถูกถ่ายคลิปแบล็กเมล์ หากผู้เสียหายไปแจ้งความก็จะขู่ปล่อยคลิป

นายเอกภพ กล่าวต่อว่า จึงขอฝากผู้เสียหายคนใดที่ถูกทำร้ายเช่นนี้ติดต่อมาที่เพจสายไหมต้องรอดเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที และฝากไปยังผู้ที่คิดจะเข้าให้การช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นใครอย่ามาปกป้องคนแบบนี้อาจจะเดือดร้อนไปด้วย อยากจะบอกว่าถึงผู้เสียหายจะทำงานเป็นเด็กเอนเตอร์เทนคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำเขาแบบนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่เกิดเหตุใน จ.อ่างทอง เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องทึ่เกี่ยวกับยาเสพติด และเรื่องการข่มขืนสั่งการให้ทาง ผบก.สส.ภ.1 ซึ่งเป็นชุดทำงาน และผู้กำกับ ให้รับคดี วันที่ 8 ก.พ.นี้ นายเอกภพ ก็จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความ และจะมีการลงพื้นที่เข้าค้นซึ่งน่าจะพบยาเสพติดอีกบ้างเพราะทราบว่าผู้ก่อเหตุใช้ยาเสพติด มีพฤติการชอบซ้อม พวกนี้นอกจากต้องดำเนินคดีแล้วต้องเข้าบำบัดด้วย ต้องไม่ให้อยู่ในสังคมหากให้มาอยู่ในสังคมเดี๋ยวก็กลับมาดำเนินคดีอีก ส่วนตัวมั่นใจว่าถ้าจะฃับได้แล้วน่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งมากกว่านี้ รวมถึงต้องดูว่ามีไปทำแบบนี้กับใครบ้าง ตนเองในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ก็ต้องไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุแล้วก็ต้องบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีเด็ดขาดทันที