รอง ผบช.ก.เผย "เอกเอกลักษณ์ วารีชล " มันสมองหลัก ชักใยบงการแก๊งศรีสุวรรณ ข่มขู่รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว กำข้อมูลทุจริตราชการหลายหน่วยงาน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ บก.ปปป.เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ นายเอกลักษณ์ วารีชล คนกลางประสานงานขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ที่ถูกจับกุมได้เพิ่มเติมเป็นรายที่ 4 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่า นายเอกเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีมาก เก่งจนสามารถควบคุมคนอย่าง นายศรีสุวรรณได้ นายศรีสุวรรณ ยังต้องฟัง เพราะเขาเป็นคนที่มีข้อมูลการทุจริต การตรวจสอบหน่วยงานรัฐต่างๆ เป็นจำนวนมาก รู้จักคนไปทั่วทุกวงการ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อ ถ้าหากนายเอกลักษณ์ นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมก็คงดี แต่กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง ส่วนรายละเอียดการสอบปากคำตนเองยังไม่พูดคุยกับผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากนั้นก็คงเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และการยื่นขอประกันตัว แต่ตนเองได้บอกกับเขาว่า หลังประกันตัวจะขอพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปปป. ได้ออกหมายจับและจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายนี้เพียงรายเดียวก่อน แต่หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 ราย แต่เป็นผู้ร่วมขบวนการระดับล่าง ไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะในวงนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยยังไม่นับวงอื่น โดยคำว่า "วง" ในที่นี้แบ่งตามวงกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อมูลทยอยเข้ามาเรื่อยๆ อีกหลายวง หากนับรวมความเสียหายทุกวงน่าจะเกือบร้อยล้านบาท แต่เป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน พฤติการณ์ลักษณะเดียวกันคือเริ่มต้นจากการร้องเรียน จากนั้นก็แปลงร่างมาเป็นคนเคลียร์ แต่สุดท้ายก็มาแบ่งเคสกัน คล้ายกับนายเจ๋ง ดอกจิก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายเจ๋ง ดอกจิก แถลงข่าวว่าจะไล่ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน รวมถึงคนที่ร้องเรียนกล่าวหาว่า นายเจ๋ง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการรีดทรัพย์ของ นายศรีสุวรรณ รวมถึงยกพานสาปแช่งขอให้คนเหล่านั้นวิบัตินั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สาธุ ต้องขอบคุณคุณเจ๋งที่ยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ซึ่งไม่รู้จะเป็นประโยชน์หรือโทษกับนายเจ๋งกันแน่ ก็ขอให้กำลังใจในการต่อสู้คดี เพราะถ้าตำรวจไม่มั่นใจในพยานหลักฐาน ก็คงไม่จับกุมขบวนการของนายศรีสุวรรณ นอกจากนี้ยังรู้สึกเห็นใจ น.ส.พิมณัฏฐา หรือ การ์ตูน ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้รวมถึงภรรยาของนายศรีสุวรรณ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ เชื่อว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ชั่วเป็นนิสัย แต่ไหลเข้าสู่วงจรอุบาท จึงรู้สึกเห็นใจผู้หญิงมากกว่า
“หลังจากนี้จะมีการเรียกนายหมู และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำภายในวันสัปดาห์นี้ แต่กรณีที่นายเจ๋งแถลงพาดพิงไปถึง รัฐมนตรีทาานหนึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่พูดไปเรื่อย ไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำ” รอง ผบช.ก. กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของนายเอกลักษณ์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเอกสารต่างๆจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีซองเอกสารสีน้ำตาลภายในมีแผ่นกระดาษแถลงการณ์ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกับที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ ใช้กล่าวในการแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สอดคล้องกับพยานหลักฐานต่างๆที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้เชื่อว่า นายเอกลักษณ์ น่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่สั่งการหรือคอยบงการเรื่องราวทั้งหมด