“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 30 มกราคม 2567 ตอน 'ภูมิใจไทย' ศึกหนักกว่าที่คิด ผลัดใบ-ยุบพรรค
พรรคภูมิใจไทยกำลังจะกลายเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่พรรคแรกที่จะเกิดการเปลี่ยนในเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ คือ การเลือกเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยแทนนายศักดิ์สยาม ชิดขอบ ซึ่งตัวเต็งคงเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอก 'ไชยชนก ชิดชอบ' ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย บุตรชาย 'เนวิน ชิดชอบ' ครูใหญ่ของพรรค
เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ออกปากเองว่าหลานชายคนนี้เหมาะสมที่สุด
โดยเป้าหมายหลักของการให้ลูกชายขึ้นมายืนเบื้องหน้าเต็มตัว คือ การพยายามปรับภาพลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยมองว่าเป็นปัญหาของพรรคมาแล้วสักระยะ แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส.มากกว่า70คนในการเลือกตั้งสองครั้งล่าสุดก็ตาม
มองลึกลงไปในผลการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงบ้านใหญ่ในหลายพื้นที่จะกวาดส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้เกือบครบทุกจังหวัดซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรค แต่พอพลิกไปดูเฉพาะคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ พบว่าหลายพื้นที่มีคะแนนน้อยกว่าพรรคก้าวไกล หรือถ้าพื้นที่ไม่แพ้แต่ก็พบว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลเบียดขึ้นมาได้อย่างสูสี
ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยได้ส.ส.บัญชีรายชื่อได้คะแนนดิบในระบบบัญชีรายชื่อ 1,138,202 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 3 คนเท่านั้น ตามหลังพรรคก้าวไกลหรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยถึงประมาณ 10 ล้านคะแนนกันเลยทีเดียว
สัญญาณเตือนปรากฎให้เห็นแล้ว หากปล่อยไว้และยังเล่นการเมืองที่เน้นเฉพาะบ้านใหญ่ จังหวัดนิยม หรือ ภูมิภาคนิยม เหมือนที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยอาจจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์
จึงเป็นตัวเร่งให้ผู้บริหารพรรคต้องปรับตัว ดังจะเห็นได้จากการขยันลงพื้นที่จัดระเบียบสังคมของ 'อนุทิน' และ 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' สองบิ๊กกระทรวงมหาดไทย เพื่อหวังดึงคะแนนจากคนรุ่นใหม่
แต่เพียงแค่นั้นอาจยังไม่พอ จึงเป็นที่มาของการดึงลูกเนวินขึ้นมานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค
ภูมิหลังของ 'ไชยชนก' มีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเป็นลูกของพ่อใหญ่เนวินเท่านั้น โดยเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลและสนามแข่งรถ Chang International Circuit เน้นดูแลด้านการตลาดและการสื่อสาร พร้อมกับบุกเบิกทีมกีฬา E-Sports ให้กับบุรีรัมย์ จนคว้าแชมป์ประเทศไทยมาแล้วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่พรรคภูมิใจไทยต้องกังวล คือ การยุบพรรค ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โดยในคำวินิจฉัยส่วนหนึ่งของศาลนั้นได้มีการระบุในสองประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.ข้อเท็จจริงถึงการบริจาคเงินของนายศุภวัฒน์ให้กับพรรคภูมิใจไทยในระหว่างที่ผู้ถูกร้องเป็นเลขาธิการพรรคจากเอกสารของพรรคภูมิใจไทยปรากฏว่า นายศุภวัฒน์บริจาคเงินหรือทรัพย์สินประโยชน์อื่นให้พรรคในนามส่วนตัวมูลค่า 2,270,000 บาทและในปี 2562 บริจาคในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญฯ เงิน 4,800,000 บาทและจำนวน 6,000,000 ในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาภายหลังผู้ถูกร้องโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์ในปี 2561 แล้วไม่ปรากฏว่าช่วงเวลาก่อนโอนหุ้นนายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญฯ เคยบริจาคเงินทรัพย์สินให้แก่พรรคภูมิใจไทยหรือมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับพรรคมาก่อน
2.ประกอบกับที่นายศุภวัฒน์เบิกความว่าก่อนที่ตนจะได้รับโอนหุ้นตนไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทยกรณีมีข้อพิรุธสงสัยว่านายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญฯ ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย แต่ช่วงเวลาที่ผู้ถูกร้องโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์แล้ว นายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญฯ กลับบริจาคเงินและทรัพย์สินให้กับพรรคการเมืองที่ผู้ถูกร้องเป็นเลขาฯ พรรค
จากประเด็นนี้อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงินโดยรู้หรือควรจะได้รู่ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กรณีแทบจะซ้ำรอยกับกรณีที่ของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบพรรคเมื่อหลายปีก่อนจากกรณีการกู้เงิน ซึ่งกรณีของพรรคภูมิใจไทยนั้นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว
เรียกได้ว่าพรรคภูมิใจไทยภายใต้สถานะความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูเหมือนแกร่งทั่วแผ่นดิน แต่กลับกำลังมีความเปราะบางอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลัดใบในพรรค และการยุบพรรค
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android