ตำรวจ ปปป.มั่นใจหลักฐานมัดแก๊งศรีสุวรรณจนดิ้นไม่หลุด ทั้งคลิปวิดีโอรับเงินงวดแรก 1 แสนบาท คลิปเสียง "เจ๋ง ดอกจิก " อ้างนำไปดูแลผู้ใหญ่ รวมถึงแชตไลน์เจรจาต่อรอง
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ตำรวจ บก.ปปป. จับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หลังร่วมกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ข่มขู่เรียกรับเงิน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน
ว่า แม้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รวมถึงอ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะคลิปวิดีโอขณะส่งมอบเงินสดงวดแรกจำนวน 1 แสนบาท รวมถึงคลิปเสียงที่ถูกบันทึกไว้ขณะมีการเจรจาต่อรองให้ผู้เสียหายยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะคลิปเสียงหลักฐานช่วงหนึ่งเป็นคลิปบทสนทนาระหว่าง นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก กำลังเจรจาต่อรองกับ นางธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร อายุ 49 ปี ภรรยาของนายณัฏฐกิตติ์ ผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ในลักษณะทำนองให้ผู้เสีบหายยอมจ่ายเงินเพื่อจะได้ยุติเรื่องร้องเรียน โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่ว่าจะผิดหรือถูก แต่หากการร้องเรียนถูกนำเสนอเป็นข่าวไปแล้วย่อมมีแต่ความมัวหมองเสื่อมเสียชื่อเสียงกว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ใช้เวลานาน
นอกจากนี้ยังพบว่ามีคลิปเสียงบางไฟล์ สามารถบันทึกเสียงบทสนทนา ของนายเจ๋ง ดอกจิก มีการพูดกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นนักการเมืองระดับสูง ในลักษณะว่าเงินที่ได้เหล่านี้จะนำไปดูแลผู้ใหญ่
ขณะเดียวกันนอกเหนือจากคลิปหลักฐานไฟล์เสียงต่างๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังมีหลักฐานสำคัญอีกหลายอย่างโดยเฉพาะข้อความแชตสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระหว่าง น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ นางธัญญรัตน์ ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว ที่มีการระบุเนื้อหาชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเงิน และ ข้อความในเชิงพูดจาหว่านล้อมข่มขู่ให้ยอมจ่ายเงิน
ทั้งนี้จากหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจำแนกพฤติกรรมหรือการทำหน้าที่ของแต่บะบุคคลได้เป็นอย่างดี คนทำเอกสารร้องเรียน คนเจรจาต่อรองเรียกเงิน คนติดตามทวงถามเงิน และ คนรับเงิน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดได้
ด้าน นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ทางอธิบดีกรมการข้าวไม่ได้ติดต่อตนเองเรื่องการจะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำ แต่ยอมรับว่าจะต้องมีการนำพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนในเร็วๆ นี้ แต่จะต้องรอการนัดหมายก่อน ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอธิบดีกรมการข้าวอาจเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหรือตำรวจอย่างไม่เป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทาง อธิบดีกรมการข้าว ได้ให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. โดยเจ้าตัวเปิดเผยสั้น ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ว่า "ขณะนี้ตนเองอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน" ก่อนกดวางสายไป