MGR Online - สายไหมต้องรอด พา “แม่ลูกอ่อน” ร้อง ก.ยุติธรรม ถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับคดีฉ้อโกง หลังถูกคนร้ายหลอกนำข้อมูลส่วนเปิดบัญชีม้า ให้เหยื่อโอนเงิน
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.ชุติกาญจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี แม่ลูกอ่อน 6 เดือน ไปยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ และการประกันตัวในชั้นศาล หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอพพลิเคชั่น และส่งข้อมูลเลขบัตรประชาชนส่วนบุคคล อ้างว่าลงทะเบียนเสร็จจะได้เงิน 300 บาท เพื่อไปซื้อแพมเพิสให้ลูก แต่กลับนำข้อมูลไปเปิดบัญชีธนาคาร ใช้เป็นบัญชีม้าหลอกคนให้โอนเงินเข้า จนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง โดยมี นายวิเชียร ไชยสอน ผอ.สำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายเอกภพ เปิดเผยว่า วานนี้ (25 ม.ค.) หลังทราบเรื่องได้รีบไปช่วยเหลือ น.ส.ชุติกาญจน์ ที่ถูกคุมขัง สน. ทองหล่อ เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว โดยทีมงานยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาท ประกันตัวออกมาก่อน จากค่าประกัน 70,000 บาท ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเห็นว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะจงใจรับจ้างเปิดบัญชีม้า แต่ถูกมิจฉาชีพหลอก อีกทั้งยังทนเห็นสภาพที่แม่ต้องเลี้ยงลูกอ่อนในคุกไม่ได้ จึงรีบให้การช่วยออกมา และมาขอความร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาหนทางช่วยเหลือแม่เด็กเพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพหลอกด้วยเช่นกัน รวมทั้ง จะพาไปแจ้งความที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อติดตามมิจฉาชีพแก๊งนี้มาดำเนินคดี
ด้าน น.ส.ชุติกาญจน์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ 25 ม.ค. ตำรวจ สน.ทองหล่อ มาจับกุมที่บ้านพักใน จ.สมุทรสงคราม แจ้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้า ซึ่งยืนยันไม่เคยเปิดบัญชีลักษณะนี้มาก่อน แต่ตอนนี้รู้สึกโล่งใจระดับหนึ่งและขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาช่วยเหลือคดี เพราะตนเองไม่ได้มีเจตนาไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าแต่อย่างใด เพราะถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทะเบียนนำข้อมูลส่วนตัวไป เพราะอยากได้เงิน 300 บาท เพื่อเป็นเงินตอบแทนการลงทะเบียนไปซื้อแพมเพิสให้ลูก โดยครอบครัวมีฐานะยากจน แฟนหนุ่มมีอาชีพรับจ้างปีนเก็บมะพร้าว รายได้เฉลี่ยตกเดือนละไม่ถึง 2,000-3,000 บาท เลยจำเป็นที่จะต้องหารายได้เสริม
น.ส.ชุติกาญจน์ ขอวิงวอนขอความเห็นใจไปยังผู้เสียหายในคดีกระเป๋าแบรนด์เนม ว่า อยากให้ถอนแจ้งความ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบัญชีม้า ส่วนความเสียหาย 90,000 บาท ตนขอเวลาไปหางานทำเพื่อทยอยชดใช้หนี้ เพราะกลัวว่าถ้าถูกดำเนินคดีจะส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูลูก
ส่วนทาง นายวิเชียร ระบุว่า เบื้องต้นผู้ร้องถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ที่กระทรวงยุติธรรมดำเนินการช่วยเหลือ โดยปกติแล้วจะต้องผ่านคณะกรรมการในการพิจารณาก่อน แต่สำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จะช่วยเหลือในเรื่องของหลักทรัพย์การประกันตัวในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น และจัดหาทนายความช่วยว่าความทางคดี นอกจากนี้ ฝากประชาสัมพันธ์หากผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีเป็นบัญชีม้า สามารถยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมได้ทั่วประเทศ
กรณีนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายไปแจ้งความตำรวจ สน. ทองหล่อ ว่าถูกหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมทางออนไลน์ ในราคา 90,000 บาท เมื่อตรวจสอบจึงพบชื่อ น.ส.ชุติกาญจน์ เป็นเจ้าของบัญชี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเพื่อให้มาให้ปากคำรับทราบข้อกล่าวหา แต่หมายเรียกส่งไปที่ภูมิลำเนาในจ.ลำพูน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ปัจจุบันได้มาพักอาศัยอยู่กับสามีที่ จ.สมุทรสงคราม จึงทำให้ไม่ทราบว่าตำรวจได้ออกหมายเรียก ต่อมาตำรวจ สน. ทองหล่อ ก็ได้ไปจับกุมตัวถึงที่บ้านพักใน จ.สมุทรสงคราม และถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ ก่อนเพจสายไหมต้องรอด เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว