รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ ล่ามัจจุราชอินเดีย ฆาตกรหั่นศพ หนุ่มเมียนมาร์
เสียงเลื่อยไฟฟ้าที่หมุนจี๋ขณะตัดร่างไร้วิญญาณของเหยื่อสังหารชาวเมียนมาร์ออกเป็น 5 ท่อน ไม่รวมศีรษะอย่างอำมหิตจนเลือดแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่ว คงจะเป็นเสียงมัจจุราชเงียบไปอีกหลายวัน
หากไม่เกิดเสียงชนประตูขณะถอยรถเอ็มจีของผู้เช่าห้องในตึกแถว จนทำให้เพื่อนบ้านข้างเคียงที่ได้ยินรู้สึกผิดสังเกต จึงออกมาดูและพบพิรุธถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนของเมียนมาร์ชะตาขาดที่ข้ามแดนมาหางานทำในเมืองไทยและกลับมายังห้องที่เกิดเหตุ จะกระหืดกระหอบมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างตึกแถวมรณะ เมื่อพบว่า
เพื่อนร่วมชาติของตนกลายเป็นศพที่ถูกตัดเป็นท่อนแล้วยัดไว้ในตู้แช่เย็น ขณะที่สองนายหน้าซึ่งเป็นชาวอินเดียและเช่าห้องไว้เป็นสำนักงาน จะอันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย
แต่ด้วยฝีมือของตำรวจไทยที่เข้าพิสูจน์ทราบที่เกิดเหตุและสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็วว่า
ฆาตกรฆ่าหั่นร่างเหยื่อเป็นท่อน ๆ ในครั้งนี้คือสองนายหน้าค้าแรงงานชาวอินเดีย ที่ชื่อนายกูนารันและนายซันดาราเวล ซึ่งสั่งซื้อตู้แช่ศพหลังสังหารเหยื่อนั่นเอง
ทั้งนี้ตึกแถว 3 ชั้น ชั้นล่างพบเป้ใส่เสื้อผ้า จำนวน 7 ใบ ชั้น 2 เป็นห้องโล่ง ส่วนชั้น 3 แบ่งออกเป็น 2 ห้อง ซ้าย-ขวา ตำรวจพบตู้แช่ ขนาด 5 คิว ในห้องฝั่งขวาสภาพใหม่เอี่ยมเสียบปลั๊กอุณหภูมิความเย็น 13 องศาฯ วางอยู่มุมห้อง
ภายในตู้พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกตัดเป็น 6 ชิ้น หัว 1 ชิ้น ขาตั้งแต่หัวเข่าลงไปทั้ง 2 ข้าง แขนตั้งแต่หัวไหล่ 2 ข้าง ลำตัวถูกหั่นแค่สะดือ แต่ยังไม่ขาด ใกล้กันพบเลื่อยไฟฟ้า 1 อัน ถูกปกคลุมด้วยผ้าห่ม ห้องด้านซ้ายพบเลื่อยไฟฟ้า 1 ตัว และมีดอีโต้เปื้อนคราบเลือดอีก 2 เล่ม และรอยเลือดจำนวนมาก
นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบในห้องน้ำชั้นเดียวกัน ยังพบคราบเลือดติดอยู่ตามผนังและพื้นห้องน้ำ คาดเป็นจุดชำแหละ ผู้ตายที่ชื่อนายอา เซ ไค อายุ 35 ปี ชาวเมียนมาร์
จากการสอบสวนนายมายยา แรงงานเมียนมาร์ ซึ่งเป็นผู้พบศพเพื่อนผู้ตายให้การว่า ตนได้ติดต่อผู้ตายในช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. วันศุกร์ที่ 19 มกราคม คุยกันตามปกติ และคุยกับนายชาวอินเดียด้วยการวิดีโอคอล แต่ตนสังเกตเห็นเหงื่อออกท่วมตัวและรีบวางหูไป สักพักก็ไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้อีกเลย
วันที่ 21 มกราคม ตนจึงเดินทางมาหาที่ตึกหลังดังกล่าว เพื่อมาเอากระเป๋าเป้ แต่เมื่อมาถึงพบว่าประตูถูกแม่กุญแจล็อกจากด้านนอก จึงโทรไปหาเจ้าของตึก เจ้าของตึกให้ตนพังประตูเข้าไป เมื่อขึ้นไปดูที่ชั้น 3 จึงพบเพื่อนถูกฆ่าตายสยดสยองดังกล่าว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับนายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน ซึ่งบินหนีออกนอกประเทศไปแล้วซึ่งจะได้มีการประสานไปยังอินเดียให้ช่วยจับกุมและส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในเมืองไทยต่อไป
สำหรับประเด็นการฆาตกรรมครั้งนี้ ทางตำรวจแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลบหนีเข้าประเทศ ค่าดำเนินการด้านเอกสาร และประเด็นรักร่วมเพศ
คดีนี้นับเป็นฆาตกรรมสุดสยองกลางกรุง คดีแรกรับปีมังกรทองที่กลายเป็น “มังกรไฟ” ที่แผดพ่นเพลิงโลกันต์ออกมาเขย่าขวัญผู้คนซึ่งจากนี้คงต้องติดตามด้วยใจระทึกว่า
จะมีเรื่องราวหฤโหดสยองขวัญในรูปแบบใดติดตามมาอีกหรือไม่ หลังจากชั่วเวลาไม่ถึง 1 เดือนของศักราชใหม่ คนไทยต้องอกสั่นขวัญหายจากฆาตกรรมป้ากบตาย 3 ครั้งที่จังหวัดสระแก้วมาจนถึงฆ่าตัดหัวแล้วหั่นศพ 5 ชิ้น ใจกลางกรุงเทพมหานคร
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android