MGR Online - พ.ต.ต.ณฐพล เผย "เฮียเก้า" ขอประสานมอบตัว หลังถูกออกหมายจับพัวพันสวมสิทธิ์ตีนไก่ส่งออกประเทศจีน เบื้องต้นพบเกี่ยวข้องกว่า 10 บริษัท
วันนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากทนายความของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” ว่าในวันที่ 22 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น. จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ เพื่อเข้ามอบตัวตามที่มีหมายจับของศาลอาญากับดีเอสไอในคดีพิเศษที่ 127/2566 (คดีตีนไก่สวมสิทธิ์) กรณีขบวนการนำเข้านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้ ซึ่งในขั้นตอนการรับตัวเฮียเก้าที่สนามบิน จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ก่อนนำส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ในการสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนอาจสอบถามข้อมูลส่วนตัว และพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ เช่น การประกอบธุรกิจส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นมาอย่างไร ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ หุ้นส่วนทางการค้า บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากการสอบปากคำไปใช้ในการขยายผลต่อไป
พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า สำหรับการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศของเฮียเก้า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเดิมทีแรก ห้วงปี พ.ศ. 2564 - 2565 เฮียเก้าทำร่วมกับสองสามีภรรยา นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย (2 ผู้ต้องหาที่ดีเอสไอจับกุมแล้ว) โดยมีนักธุรกิจอีก 1 ราย ที่รับหน้าที่เป็นตัวกลางคอยประสานทางการค้าระหว่างเฮียเก้าและสองสามีภรรยา แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็กลายเป็นคู่แข่งทางการค้ากัน ไม่ได้ทำร่วมกันอีก ต่างคนต่างดำเนินธุรกิจของตัวเอง
“นอกจากนี้ เมื่อคณะพนักงานสอบสวนขยายผลต่อเนื่อง พบว่าในส่วนของบริษัทเอกชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเฮียเก้า เบื้องต้นมีจำนวน 10 บริษัท โดยเป็นบริษัทที่อยู่ในนามของคนใกล้ชิดเฮียเก้า ส่วนเรื่องรายการครอบครองทรัพย์สินต่างๆในประเทศไทยของเฮียเก้า ดีเอสไอได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตรวจสอบคู่ขนานไปกับคดีทางอาญา”