ตามนโยบายของ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ในประเทศไทย รวมทั้งให้ดําเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พํานักอาศัย อยู่ในประเทศไทย กระทําผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทําความผิด
ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดน ไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก. สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงศ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสําคัญ ดังนี้
1. สตม.จับโสมขาวราชายาเสพติด “แก๊งเอกมัย” OVERSTAY พ่วงคดีครอบครองและเสพยาเสพติด
บก.สส.สตม. จับกุม นายลี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ พร้อมด้วยของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภท 2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบดึงเปิดกดปิด น้ําหนักรวม 3.67 กรัม โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด, ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย นําตัวส่ง พนักงาน สอบสวน สน.ทองหล่อ ดําเนินคดีตามกฎหมาย
ตามนโยบายของสํานักงานตํารวจแห่งชาติดังกล่าวข้างต้น พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ได้กําชับให้หน่วยงานในสังกัด สตม. เร่งดําเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยเกินกําหนด อนุญาต (OVERSTAY) และคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.สส.สตม. ทราบว่า นายลี ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.ผ.90 วันครบกําหนดอนุญาตวันที่ 30 ก.ค.2565 การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดแล้ว และยังมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เข้าทําการตรวจค้นห้องในคอนโดมิเนียมดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบนายลี และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบดึงเปิดกดปิด น้ําหนัก รวม 3.67 กรัม วางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ จากนั้นได้เชิญตัวนายลีไปยังโรงพยาบาลตากสิน เพื่อตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจเป็นบวก โดยนายลีไม่ประสงค์จะเข้ารับการบําบัด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุม นายลี ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดําเนินคดีในข้อหาดังกล่าว พร้อมทั้งได้ตรวจยึดสิ่งของและเอกสารที่น่าเชื่อว่า
มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทําความผิดหรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทําความผิด หรืออาจเป็น
ได้แก่ โน้ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ บัตรเดบิต สมุดคู่ฝากธนาคาร และอื่นๆ รวมจํานวน 26 รายการ
อนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ประสานงานสอบถามเจ้าหน้าที่สืบสวนของสํานักงานตํารวจแห่งชาติเกาหลใี ต้
รับแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นทางการเกาหลีใต้ได้จับกุมสมาชิก 23 คนขององค์กรลักลอบขนยาเสพติดที่เรียกว่า "แก๊งเอกมัย" ที่ดําเนินงานผ่านศูนย์กลางในประเทศไทย และได้จับกุมผู้จําหน่ายและผู้ใช้ยาเสพติด 3 ราย รวมเป็น 27 ราย โดย"แก๊งเอกมัย" มีนายลี เป็นผู้บงการขนยาเสพติดดังกล่าว นอกจากนี้ นายลี ยังเป็นบุคคลที่องค์การตํารวจสากลได้ ออกประกาศสีแดง (INTERPOL Red Notice) และทางการเกาหลีใต้ต้องการตัวไปดําเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
2. สตม.ขยายผลบุกจับชาวอินเดียลอบปล่อยเงินกู้ร้อยละ 25 ต่อเดือน
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้หน่วย ในสังกัด สตม. ดําเนินการปราบปรามกลุ่มคนต่างด้าวที่พฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รับผิดชอบกลุ่มเงินกู้นอกระบบ และ กลุ่มขบวนการเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าว โดยให้ดําเนินการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมคนต่างด้าวที่พํานักอยู่ ในราชอาณาจักร
ตม.จว.นนทบุรี ภายใต้การอํานวยการของ พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตม.จว.นนทบุรี, พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี ได้สั่งการให้ติดตาม สืบสวนจับกุมกลุ่มชาวอินเดียต่างด้าวที่มีการปล่อยเงินกู้เรยี ก ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด โดย พ.ต.ต.ภาคย์ ศรีวนิชย์ สว.ตม.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.นนทบุรี ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า พฤติการณ์ของกลุ่มชาวอินเดียปล่อยเงินกู้จะขับขี่รถจักรยานยนต์ ตะเวน ไปตามตลาดร้านค้า แล้วเข้าพูดคุยติดต่อเสนอเงินให้กู้ยืม พร้อมคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา มีเงื่อนไขให้ผู้ที่กู้เงินต้องส่ง ดอกเบี้ยเงินสดรายวัน จึงได้ติดตามและพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ และติดตามมาถึงที่หอพักที่ชายอินเดียเข้าพักอาศัย พบเห็นรถจักรยานยนต์เป้าหมายจอดหน้าตึก จึงเฝ้า ซุ่มดูพบเห็นและทําการจับกุมตัว Mr.A (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติอินเดีย และดําเนินคดีในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด (OVERSTAY 2,366 วัน) ซึ่งพบว่า พฤติการณ์ของชายชาวอินเดียผู้ถูกจับ ซึ่งอยู่เกินกําหนดเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแขก ปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จากนั้นได้ขยายผลเพื่อหากลุ่มขบวนการอินเดีย ปล่อยเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งต่อมาพบผู้เสียหายเป็นหญิงชาวไทย ประกอบอาชีพแม่ค้าขายของในตลาด ได้ให้ปากคํากับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าได้มีการกู้ยืมเงินกับชายต่างด้าวสัญชาติอินเดีย จํานวนยอดเงิน 3,000 บาท ไม่มีเอกสารการทํา หลักฐานการกู้ยืมเงิน โดยตกลงชําระหนี้รายวัน วันละ 150 บาท เป็นจํานวน 24 วันต่อเนื่องกัน รวมต้องจ่ายเงินต้น พร้อมดอกเบี้ย รวม 3,600 บาท คิดเป็น ร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน (ร้อยละ 25 ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 300 ต่อปี) และ ตกลงกู้เงินได้มีการหักดอกเบี้ยล่วงหน้า และแขกต่างด้าวผู้ให้กู้ ได้เรียกเก็บเงินสดใช้หนี้รายวัน หรือให้โอนเงินใช้หนี้ เข้าบัญชี ชื่อบัญชี MR.B (นามสมมุติ) จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทําการจับกุมตัว พยานหลักฐานพิสูจน์การกระทําความผิด
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ชุดสืบสวนฯ ได้สืบทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหนี้ต่างด้าวชายสัญชาติอินเดียจะเข้ามาเก็บเงินสดที่กู้ยืมที่แผงร้านค้าของผู้เสียหายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ซุ่มดูละแวกใกล้เคียงแผงร้านค้าของผู้เสียหาย จนพบเจอชายลักษณะต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง เดินเข้ามายังแผงร้านค้าของผู้เสียหาย และเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย โดยขณะ ตรวจพบผู้ถูกจับทราบชื่อภายหลังว่า Mr.B (นามสมมติ) สัญชาติอินเดีย ได้นําเจ้าหน้าที่ไปยังห้องเช่าของตนเองเพื่อที่จะ แสดงเอกสารหนังสือเดินทางที่อยู่ในห้องเช่า เจ้าหน้าที่ฯ เข้าตรวจสอบในห้องเช่า พบเอกสารหนังสือเดินทางปรากฏชื่อ Mr. B (นามสมมติ) สัญชาติอินเดีย ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง 16 พ.ย. 2567 จากนั้น ได้ตรวจสอบภายในห้องพัก พบสมุดบัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการรับโอนเงินกู้ ที่มีเลขบัญชีตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้ง พร้อมด้วย บัตรเอทีเอ็มที่ใช้สําหรับถอนเงินที่ ได้รับจากการเก็บเงินกู้ และ สมุดโพยจดบัญชีเก็บเงินกู้ วางอยู่บนพื้นข้างฟูกที่นอนภายในห้องเช่าดังกล่าว โดยผู้ถูกจับไม่ได้รับ ใบอนุญาตทํางานแต่ได้มาประกอบอาชีพ ปล่อยเงินกู้เลี้ยงชีพของตนจึงจับกุมดําเนินคดีในฐานความผิด“ให้ผู้อื่นยืมเงิน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกําหนด และ ทํางานโดยไม่มีใบอนุญาตทํางานฯ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 และ พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทํางานคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8
สถานที่จับกุม บริเวณด้านหน้าร้านแผงลอยในตําบลไทรม้า อําเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2566 เวลาประมาณ 20.45 น. โดยนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง แล้วจะได้สืบสวนปราบปราม ขยายผลเพื่อหากลุ่มชาวอินเดียที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ดังกล่าวต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทําความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายัง สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th
จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง