แม่ของเด็กวัย 8 เดือนร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกหญิงอ้างป่วยซึมเศร้าและไม่เคยรู้จักกัน เข้ามาทำร้ายร่างกายตบตีกระชากหัวทั้งที่อุ้มลูกอยู่ ขณะเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต
วันนี้ (10 ม.ค.) น.ส.วิภาพร บุญมี อายุ 28 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกผู้ก่อเหตุอ้างป่วยซึมเศร้าทำร้ายร่างกายตบตีกระชากหัว ทั้งที่อุ้มลูกอ่อนวัย 8 เดือนอยู่ด้วย จนลูกโดนทำร้ายไปด้วย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.วิภาพร กล่าวว่า ตนพาลูกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งตั้งใจจะเดินมาชนตั้งแต่แรก ตอนนั้นตนพยายามเอี้ยวตัวหลบ เพื่อไม่ให้โดนลูก จากนั้นตนคิดว่าเดินผ่านไปแล้วจะไม่มีเรื่องอะไร แต่เขาเดินกลับมาแล้วกระชาก ตอนนั้นตนก็ร้องให้พนักงานช่วย พอพนักงานช่วยเขาก็อาศัยช่วงชุลมุนตบลูกของตน ซึ่งเป็นลูกเพียงแค่วัย 8 เดือน โดนตบที่หัวและตนก็โดนกระชาก โดนจิกหัวและโดนตบ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
โดยคนก่อเหตุก็ไม่ได้พูดอะไร ตนจึงได้บอกว่า จะขอกล้องวงจรปิดไปแจ้งความ เขาก็บอกว่าแจ้งเลย เพราะเขาเป็นโรคซึมเศร้าเขามีใบรับรองแพทย์จะแจ้งความจับเขาก็เอาเลย แล้วก็เดินออกไป ซึ่งคนก่อเหตุอายุ 30 กว่าปี เป็นผู้หญิงดูเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะจากการแต่งตัวและอีกอย่างคือเขาสามารถโต้ตอบตนได้ ถ้าเขาซึมเศร้าหรือมีภาวะทางจิต เขาก็น่าจะไม่โต้ตอบแบบนี้
น.ส.วิภาพร กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนได้ไปแจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้หญิงคนก่อเหตุได้แล้ว และนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีธัญญาเพื่อตรวจสอบว่า ป่วยจริงหรือไม่ และเบื้องตนคุยกับญาติแล้วญาติแจ้งว่าเขาป่วยมานานแล้วประมาณ 7 ปี กินยามาตลอด แต่เมื่อถามว่าทำไมไม่ให้คนป่วยอยู่ตามโรงพยาบาล ก็ตอบว่าเคยให้ไปแล้วแต่ทางหมอวินิจฉัยว่าสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้จึงได้ปล่อยออกมา ซึ่งหลังจากนี้ญาติเขาก็จะรับผิดชอบค่าเสียหายอีกรอบ
ทั้งนี้ตนมองว่า ญาติควรจะดูแลบุตรหลานเขาให้ดีกว่านี้ วันนี้ตนโชคดีที่ว่าเขาไม่มีอาวุธ ตนกับลูกจึงเจ็บแค่นิดเดียว แต่ถ้าเขามีอาวุธหรือเขาทำร้ายอาจจะหนักกว่านี้ และไม่สามารถเอาผิดได้ก็ทำให้ตนหวาดระแวงมากตอนนี้ ส่วนทางด้านห้างที่เป็นพื้นที่ก่อเหตุก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมาหาตน และยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ตนได้ประสาน ผกก.สน.โชคชัยแล้ว ส่วนตัวมองว่า ถึงแม้เขาจะเคยรักษาตัว และเมื่อคุณหมอวินิจฉัยว่าเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ เขาก็ต้องถูกดำเนินคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายไว้แล้ว แต่ว่าการเอาผิดกับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต้องให้คุณหมอยืนยันกลับมาว่า เขามีสภาพจิตปกติถึงจะสามารถยืนยันและดำเนินคดีทางอาญาได้ เพราะถ้าเขาจิตไม่ปกติจะไม่สามารถดำเนินการกับเขาได้
นายเอกภพ กล่าวอีกว่า และอยากให้ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาเยียวยาผู้เสียหายเพราะเขาเป็นลูกค้าและถูกกระทำในลักษณะแบบนี้ในห้างของท่าน ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการรับผิดชอบ ทั้งนี้ ตนมองว่าการปล่อยให้บุคคลมีอาการลักษณะแบบนี้ออกมาใช้ชีวิตทั่วไปปกติ ต้องมีคนรับผิดชอบ ถ้าเขาไม่สามารถรับผิดชอบได้ ก็ต้องเอาผิดกับทางญาติที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเคสนี้เกิดคำถามว่า ทุกวันนี้เราเดินในสังคมเราเดินร่วมกับคนป่วยแบบนี้หรือไม่ เข้าใจว่าคนป่วยมันควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เขาควรจะอยู่ในสถานที่หรือสถานพยาบาล และทางครอบครัว ถ้าท่านมีสมาชิกครอบครัวที่มีลักษณะแบบนี้ และให้ออกคนมาเดียวหรือถ้าเกิดออกมาต้องคนดูแล ต้องมีครอบครัวออกมาด้วยเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย