xs
xsm
sm
md
lg

“อัจฉริยะ” ยื่น ป.ป.ส. สอบยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด นำเงินหมุนเวียนธุรกิจ-เว็บพนัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “อัจฉริยะ” นำหลักฐานอนุกรรมาธิการยาเสพติดฯ ร้อง ป.ป.ส. ขยายผลตามยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ทำธุรกิจขายน้ำมันส่งออกบังหน้า จี้เอาผิดตัวบงการใหญ่

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารมามอบให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อช่วยตรวจสอบยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดที่นำเงินหมุนเวียนมาประกอบธุรกิจและเว็บพนันออนไลน์ โดยมี นางเมทินี พัฒนภักดี เลขานุกรม สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นผู้รับเรื่อง

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานเอกสารเป็นมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ การแก้ไขปัญหายาเสพติดและการฟอกเงิน ในปี 2562 ที่ระบุ ว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนำเงินไปซื้อน้ำมันจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศ แต่ไม่ได้มีการซื้อขายกันจริง ก่อนนำมาฟอกเงินในธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และร้านอาหาร และนำกลับไปหมุนเวียนในเครือข่ายค้ายาเสพติดอีกทอดหนึ่ง พร้อมด้วยรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 200 คน

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับขบวนการดังกล่าวเชื่อว่าเกี่ยวข้องการแพร่ระบาดยาเสพติดในประเทศไทย ขณะนี้กว่าร้อยละ 40 ได้นำเงินและไปค้าขายน้ำมันส่งออกไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน แต่ความจริงแล้วขายเพียง 10% ส่วนอีก 90% ได้วนกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อขอเครมภาษี VAT จากนั้นยังนำเงินทั้งหมดที่ได้จากการทำธุรกิจในเครือข่าย ประมาณ 30,000 ล้านบาท ไปลงทุนในเว็บไซต์พนันออนไลน์

นายอัจฉริยะ กล่างต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 116/2563 ไปแล้วในความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้ดำเนินการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวและกลุ่มบริษัทขนส่งที่จังหวัดนนทบุรี และศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษแล้ว รวมทั้งอัยการสูงสุดก็ได้รับตรวจสอบดำเนินคดีดังกล่าวในฐานะคดีนอกราชอาณาจักรไปแล้ว แต่เนื่องจากตัวการใหญ่ในคดีที่เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ ข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ผู้ต้องหาได้ซัดทอด และเครือข่ายอีกหลายรายที่ผู้ต้องหาได้ซัดทอดถึงยังไม่ถูกดำเนินคดี และยังคงดำเนินธุรกิจอยู่โดยนำเงินไปสนับสนุนไปยังธุรกิจต่างๆ ทั้งสถานบันเทิง ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม อสังหาริมทรัพย์

“ขณะที่ขั้นตอนการยึดทรัพย์ที่เหลือในคดีที่ผ่านมาเรื่องยังคงค้างอยู่ที่ขั้นตอนของคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ การแก้ไขปัญหายาเสพติดและการฟอกเงิน โดยไม่มีการดำเนินการต่อ จึงมีผู้มาร้องเรียนกับตนเองจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานมายื่นต่อ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อตรวจสอบยึดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 200 คน เพื่อให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของรัฐ และตัดวงจรขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติด”
กำลังโหลดความคิดเห็น