ตำรวจนางเลิ้ง พาตัว "ปิยบุตร" ส่งอัยการ พร้อมความเห็นสมควรฟ้อง ผิดประมวลกฎหมายอาญา ม. 116 และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ จัดรายการ Clubhouse ปี 64 เข้าข่ายยุยงปลุกปั่น ด้านอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ 8 ก.พ.นี้ เจ้าตัวโวยปลุกปั่นตรงไหน ทั้งที่บอกเองให้ทุกฝ่ายใจเย็น
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ อาคารกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง
พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง นัดส่งตัวพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เเละความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ให้พนักงานอัยการพิจารณาสำนวนเพื่อมีคำสั่ง
หลังจากที่ นายณฐพร โตประยูร เข้าเเจ้งความดำเนินคดี จากกรณีนายปิยบุตรจัดรายการวิพากษ์วิจารณ์ ใน Clubhouse เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2564
ก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ นายปิยบุตรกล่าวว่า กรณีจัดรายการช่วง มี.ค.64 นายณฐพรได้อ่าน หรือฟังข้อความหรือไม่ ตนไม่ทราบ ก็ไปแจ้งความพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 เม.ย.ตอนนี้ผ่านมา 9 เดือน สุดท้ายพนักงานสอบสวนมีความเห็นทำสำนวนมาส่งให้อัยการ ซึ่งการสอบสวนก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเเละตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีการควบคุมตัวใดๆ ทั้งสิ้น และให้สิทธิในการต่อสู้คดีเต็มที่
"แต่สิ่งที่ผมจะตั้งข้อสังเกตไว้มาตลอดก็คือ ตกลงเหลือประเทศไทยเราในกระบวนการยุติธรรมอาญาวิธีพิจารณาความอาญา เราจะเดินหน้ากันแบบไหน ตกลงแล้วจะให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจหน้าที่เป็นเหมือนคนส่งหมาย ส่งสำนวนมาให้อัยการโดยที่ไม่มีดุลพินิจอะไรเลย ซึ่งชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าพนักงานสอบสวน ก็คงต้องสอบสวนให้เต็มที่ ตอนผมไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.นางเลิ้ง ผมขอสมมุติว่าถ้าท่านมาเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ถ้าเราคิดแบบทำเป็นโจทย์ข้อสอบ ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย มันไม่เข้าองค์ประกอบความผิดเลย เเละผมจะไม่ต้องมารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ต้องมานั่งถูกทำสำนวนส่งอัยการด้วยซ้ำแต่ที่ผ่านมาเพราะเป็นคดีที่เกี่ยวพันกับความมั่นคง"
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ฝ่ายบริหารรัฐบาลชุดนี้นำโดยพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนตอนช่วงหาเสียง โดยแกนนำของพรรคเพื่อไทยพูดไว้ว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ 116 เเละกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพมันไม่ต้องไปแก้ไขหรือยกเลิก แค่จัดการแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมก็เพียงพอ แล้วใช้มาตราการบริหารทำกระบวนการยุติธรรมให้มันยุติธรรมก็พอแล้ว วันนี้รัฐบาลเข้ามาปฎิบัติหน้าที่แทบจะไม่เห็นพูดเรื่องนี้เลย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เเค่สั่งให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่อย่างมาตรฐานเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นคดี 112 หรือ116 หรือคดีการเมือง
“ไปถามทนาย ผู้พิพากษา อัยการที่ไหนก็ได้ ถามนอกรอบก็ได้ว่า เคสตรงนี้มันเข้า 116 ตรงไหน มันยุยงปลุกปั่นไหม ผมเป็นคนบอกด้วยซ้ำว่าให้ทำและรณรงค์ให้ใจเย็นทั้งสองฝ่าย และกลายเป็นว่าผมปลุกปั่น
"ส่วนเรื่องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เดี๋ยวต้องลองคุยกับทนายความดูว่าจะดำเนินการขั้นตอนอย่างไร แต่เราคิดดูประชาชนจำนวนมากอย่างเช่นประชาชนตาดำๆ นิสิตนักศึกษาโดนและมีภาระเต็มไปหมด เเล้วบอกว่าจะปรองดอง บอกว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เเต่เรื่องแบบนี้มันยังมีอยู่เต็มไปหมด มันจะจบไปได้ยังไง” นายปิยบุตรระบุ
ภายหลังนายปิยบุตรรายงานตัวพนักงานอัยการแล้ว อัยการสำนักงานอัยการกรุงเทพใต้ได้นัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ ครั้งเเรกในวันที่ 8 ก.พ.2567