xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : มองคำขวัญวันเด็ก 3 นายกฯ เพื่อไทย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 ตอน มองคำขวัญวันเด็ก 3 นายกฯ เพื่อไทย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เศรษฐา’



เป็นธรรมเนียมและถือปฏิบัติกันมาทุกปีสำหรับการมอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติของนายกรัฐมนตรี ซึ่งในปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบคำขวัญวันเด็กว่า "มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย"

ย้อนกลับไปคำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรีที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2499 ตั้งแต่ยุคสมัยของจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นต้นมานั้น จะเห็นได้ว่าสะท้อนบุคลิกและสภาพบ้านเมืองของประเทศไทยในขณะนั้นพอสมควร โดยถ้านับเฉพาะนายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ก็ได้ผ่านการให้คำขวัญมาแล้วถึง 3 คน

คนแรกนายทักษิณ ชินวัตร ได้มอบคำขวัญวันเด็กถึง 5 ครั้ง ประกอบด้วย ปี 2545 "เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส" ปี 2546 "เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี" ปี 2547"รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน" ปี 2548 "เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด" และปี 2549 "อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด"

ต่อมาเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีก 3 ครั้ง ปี 2555 "สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี" ปี 2556 "รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน" ปี 2557 "กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง" และมาถึงคนล่าสุด คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว

ในการนี้พอจะเห็นได้ว่าคำขวัญเด็กของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทย ไม่ต่างอะไรกับกระจกสะท้อนเมืองไทยช่วงเวลาดังกล่าว อย่างยุคสมัยของนายทักษิณ อาจเป็นเพราะที่นายทักษิณมาจากนักธุรกิจโทรคมนาคมที่ประสบความสำเร็จและจุดเริ่มต้นของยุคมสมัยแห่เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบกับ บุคลิกกล้าคิด กล้าทำ

ซึ่งแตกต่างจากอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนก่อนหน้านั้นที่จะเป็นนักกฎหมายหรือนายพลทหาร ทำให้คำขวัญวันเด็กตลอดอายุรัฐบาลทักษิณ จึงหนักไปกับคำว่า "เทคโนโลยี" และ "คนรุ่นใหม่" เป็นสำคัญ

เช่นเดียวกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ในเวลานั้นถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ประกอบกับ มีพื้นฐานจากการเป็นผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้คำขวัญวันเด็กยุคนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงมีเนื้อหาและสัญลักษณ์ที่สื่อออกมาในทำนองใกล้เคียงกับนายทักษิณผู้เป็นพี่ชายผ่านการเน้นคำว่า "เทคโนโลยี"

แต่จุดแตกต่างเล็กน้อย ตรงที่ห้วงเวลานั้นประเทศไทยกำลังให้ความสำคัญกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และยิ่งลักษณ์ก็เน้นกับการเดินทางพบผู้นำประเทศ ส่งผลให้คำว่า "อาเซียน" ถูกบรรจุเข้ามาอยู่ในคำขวัญวันเด็กโดยปริยาย

มากันที่คำขวัญวันเด็กของนายเศรษฐาที่ว่า ""มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย" ปฏิเสธไม่ได้ว่าการก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิจารณ์ครั้งใหญ่ ภายหลังพรรคเพื่อไทยไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่เคยประกาศว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย

นอกจากนี้ ยังเป็นห้วงเวลาที่คนรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในทางการเมืองและชี้นำสังคมมากขึ้น และก่อให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากมาย พร้อมกับกระแสเรียกร้องให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คำขวัญวันเด็กปีแรกของนายเศรษฐา จึงค่อนข้างแตกต่างกับสองอดีตนายกฯที่ผ่านมา

เพราะนายเศรษฐาเน้นคำว่า "เคารพความแตกต่าง" และ "ประชาธิปไตย" มากเป็นพิเศษ โดยหวังว่าอย่างน้อยที่สุดจะทำให้สาธารณชนได้เห็นว่านายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในทางการเมืองและพร้อมเปิดรับความคิดเห็นที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต

เหลือแต่เพียงว่าการมอบคำขวัญวันเด็กดังกล่าวที่ประหนึ่งเป็นการให้สัญญาไปนั้น จะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เห็นหรือไม่เท่านั้น

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น