ตม.หนองคาย จับกุมสาวพนักงานโรงรับจำนำ ได้คาด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หลังยักยอกทองออกมาเวียนจำนำซ้ำ ทำมา 2 ปี เสียหาย 170 ล้านบาท
วันนี้ (3 ม.ค.) พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.จีรวรรณ กระแสอินทร์ อายุ 30 ปี อยู่ที่หมู่ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 1038/2566 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ซึ่งเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมได้ที่จุดตรวจบุคคลและพาหนะ (ขาเข้า) ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ที่ผ่านมา
สำหรับพฤติกรรมแห่งการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ได้สืบสวนหาข่าวและเฝ้าติดตามตัว น.ส.จีรวรรณ ที่เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ตำแหน่งรักษาทรัพย์สินอาวุโส ของโรงรับจำนำ อีซี่ มันนี่ สาขาแจ้งวัฒนะ ซึ่งได้ก่อเหตุสร้างความเสียหายให้แก่โรงรับจำนำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และมีหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรผ่านทางด่าน ตม.จว.หนองคาย อยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ ตม.จว.หนองคาย ได้เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด จนกระทั่งวันนี้ (3 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ทราบชัดเจนว่าผู้ต้องหาจะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรทางจุดตรวจด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย จึงได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.สราวุธ เครือชาลี ร้อยเวรตรวจบุคคลและพาหนะ (ขาเข้า) พบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับมายื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจอนุญาตเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าร่วมตรวจสอบ พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงได้จับกุมตัว เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น น.ส.จีรวรรณ ผู้ต้องหา บอกว่า เวลานำทองมาเวียนเทียนจำนำแต่ละครั้งจะได้เงินหลักหมื่นถึงหลักแสนแล้วแต่จำนวนทองที่เอาออกไปเวียนเทียนกลับเข้ามาจำนำ ทรัพย์สินที่นำออกไปเวียนเทียนก็จะเป็นทองคำเพียงอย่างเดียว ส่วนทองปลอมนั้นไม่ได้เอามาเวียนเทียนจำนำ แต่เอามาใส่แทนไว้เวลาเช็กสต็อกว่าทองคำที่รับจำนำยังอยู่ครบเท่านั้น ส่วนคนที่จ้างให้นำทองที่ตนยักยอกออกไปนำมาจำนำ ก็จะว่าจ้างคนทั่วไปโดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา และจะให้ค่าจ้างครั้งละ 500-1,000 บาท แล้วแต่มูลค่าของทองคำที่ให้เขานำมาจำนำ จะจ้างไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำหน้าจนไม่รู้ว่ามีกี่คน คนว่าจ้างก็ไม่มีส่วนรู้เห็นว่าเป็นทองคำที่ตนได้มาโดยมิชอบ ซึ่งตนจะอ้างไปเรื่อยๆ ว่า ได้มาจากที่โน่นที่นี้ เงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ตอนนี้มีเพียงบ้านราคา 4 ล้านบาท
พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย กล่าวว่า ผู้ต้องหามีตำแหน่งรักษาทรัพย์สินอาวุโส ของโรงรับจำนำ มีการยักยอกทองคำออกมาแล้วจ้างให้คนอื่นนำทองมาจำนำที่โรงรับจำนำที่ตนทำงานอยู่ ทำแบบนี้วนเป็นวงจรไปเรื่อย เป็นเวลาประมาณ 2 ปี เงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 170 ล้านบาท ทองที่ยักยอกออกไปก็จะมีการนำทองปลอมมาสวมไว้แทน
