“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 ตอน “ปีมะโรง” การเมืองแรง ศึกภายในเริ่มปะทุ เพื่อไทย vs ภูมิใจไทย
การเมืองปีมะโรง อุณหภูมิน่าจะสูงกว่าปีกระต่ายที่ผ่านพ้น รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน คงมีบททดสอบอะไรเข้ามาอีกเยอะ ไม่ง่ายเหมือน 3 เดือนแรกแน่
โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบ ที่น่าจะทำงานเข้มข้นกว่าเดิมเยอะ หลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ผ่านสภา
ฝ่ายบริหารจะได้ใช้งบประมาณแบบเป็นเนื้อเป็นหนัง ไม่เหมือนปีที่เพิ่งผ่านพ้น ซึ่งต้องใช้งบประมาณปี 2566 ทำอะไรได้ไม่มาก
ตามประสานักการเมืองผู้หิวโหย พรรคเพื่อไทยซึ่งร้างลาจากอำนาจมาเกือบ 9 ปี น่าจะมีคนเก็บอาการไม่อยู่ แสดงอาการมูมมาม หรือตะกละตะกลามให้เห็น
และนั่นทำให้กลไกตรวจสอบทำงานได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่น่าจะแสดงฝีมือเรียกศรัทธาฝ่ายค้านมืออาชีพเพื่อให้ประจักษ์ต่อสังคม
โครงการต่างๆ ของรัฐ น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นให้เห็นเหมือนกับทุกยุคทุกสมัย ซึ่งอยู่ที่ว่า ฝ่ายรัฐจะทำได้แนบเนียน หรือทิ้งร่องรอยจนถูกตามกลิ่นเจอหรือไม่
เอาว่า ปีมะโรง งูใหญ่ ฝ่ายรัฐน่าจะถูกร้องเรียนกันพอสมควร หลังจากโครงการต่างๆ เริ่มขับเคลื่อน หลังจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ผ่านสภา
ขณะเดียวกัน อีกจุดที่ต้องจับตาคือ จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กันหรือไม่ เพราะถ้าดูสไตล์การทำงานตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ต่อเนื่องมาถึงยุคพรรคเพื่อไทย มักจะปรับ ครม.กันถี่ เร็วสุดเกิดขึ้นทุก 6 เดือน
ตอนนี้ ครม.เศรษฐา 1 ทำงานกันมาแล้ว 3 เดือน เหลืออีก 3 เดือนจะครบ 6 เดือน ซึ่งรัฐมนตรีชุดแรกก็คงได้ใช้เงินงบประมาณกันไปบ้าง ต้องลุ้นกันว่า นายใหญ่ชั้น 14 จะกดปุ่มปรับหรือไม่
ซึ่งมีแนวโน้มสูงเหมือนกัน เพราะปีนี้เป็นปีที่รัฐบาลเศรษฐา ต้องแสดงฝีมือให้มากที่สุด มีเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามไทม์ไลน์มากมาย โดยเฉพาะโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท
เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เรื่องเงินเดือนปริญญาตรี เงินเดือนข้าราชการ รวมไปถึงเรื่องที่คนชั้น 14 จะได้ออกมาจากการกุมขังอีก จำเป็นต้องดึงมืออาชีพ พวกตัวจริงเสียจริงมาช่วยงานเศรษฐามากขึ้น
อีกจุดที่ต้องจับตาเช่นกันคือ ความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลจะยังราบรื่นเหมือนกับ 3 เดือนแรกหรือไม่ เพราะจะมีปัจจัยอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในปีมังกรทองนี้
โดยเฉพาะระหว่างพรรคอันดับ 1 กับพรรคอันดับ 2 ที่รัฐบาลที่มักจะขบเหลี่ยมกันเมื่อทำงานผ่านไปสักระยะหนึ่ง เหมือนกับรัฐบาลชุดที่แล้วที่พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 ออกฤทธิ์ออกเดชกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อต่อรองเรื่องต่างๆ หลายครั้งหลายหน
เพียงแต่ครั้งนี้อำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เยอะเหมือนกับในรัฐบาลชุดที่แล้ว กลายเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคอันดับ 1 ที่อำนาจต่อรองสูงกว่าพรรคทั้งปวง
รัฐบาลชุดนี้มี 314 เสียง ในขณะที่รัฐบาลชุดที่แล้วมีเกิน 250 เสียงมาแบบปริ่มน้ำ ชนิดขาดพรรคร่วมรัฐบาลใดพรรคร่วมรัฐบาลหนึ่งไม่ได้เลย
ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย มีสถานะที่ดีกว่าพรรคพลังประชารัฐในตอนนั้น ทำให้ช่วง 3 เดือนแรก พรรคภูมิใจไทยยังเป็นเด็กดีอยู่
แต่มันอาจจะมีเรื่องที่อาจจะทำให้เกิดการปะทะกันได้อยู่ อย่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่ง เศรษฐา ต้องการให้มีการปรับสูงกว่านี้ แต่บอร์ดค่าจ้าง ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงแรงงาน ที่มี พิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นเสนาบดี ในโควตาพรรคภูมิใจไทยไม่ได้สนองตอบตามประสงค์นัก
เศรษฐา แสดงอาการหงุดหงิดหลายครั้งที่บอร์ดค่าจ้าง ขึ้นค่าแรงแบบกระปริดกระปรอย ขนาดว่า ตัวนายกฯส่งสัญญาณว่าไม่พอใจไปหลายครั้ง แต่กระทรวงแรงงานกลับไม่สามารถเอากลับไปทบทวน เปลี่ยนแปลง ได้เท่าที่ควร
พรรคเพื่อไทยไม่พอใจเรื่องนี้ เพราะเป็นนโยบายสำคัญของพรรคที่จะใช้ต่อยอดในการหาเสียงได้ อีกอย่างพรรคเพื่อไทยเคยทำเรื่องนี้สำเร็จมาแล้วในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่พอตกไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล กลับไม่สามารถขับเคลื่อนได้ถนัดถนี่
ซึ่งกระทรวงแรงงานระบุว่าจะมีการขึ้นครั้งที่ 2 ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ จึงต้องรอดูว่า จะขึ้นได้แบบถูกใจผู้นำ หรือขึ้นแบบกระปริดกระปรอยอีก
กระทรวงแรงงานภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทยจะกล้าขืนใจอีกหรือไม่
แน่นอนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ยอมแน่ แล้ววันนี้อำนาจต่อรองในมือสูง โดยเฉพาะการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ชื่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน แล้ว พรรคภูมิใจไทยยังจะกล้างัดหรือทำตาเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนกับพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่
พรรคเพื่อไทยเองไม่ได้แคร์พรรคภูมิใจไทยมากนัก เพราะวันนี้ถ้ามีปัญหากันจริง พรรคเพื่อไทยสามารถไปดึงเอาพรรคประชาธิปัตย์มาเติมได้ 20 กว่าเสียง ต่อให้ 70 กว่าเสียงของพรรคภูมิใจไทย ไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรอยู่ดี
แล้วอย่าลืมว่า กำลังสำรองของพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีแค่พรรคประชาธิปัตย์ที่ปรารถนาจะมาร่วมรัฐบาลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ยังมีพรรคเล็กพรรคน้อยที่อยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่วันนี้ไม่มีตัวจี๊ดอย่าง น.ต.ศิธา ทิวารี แล้ว
ตามหลักคณิตศาสตร์ทางการเมือง หากดึงพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคไทยสร้างไทยมาร่วม เสียงรัฐบาลก็เกินกึ่งหนึ่ง แล้วยังจะได้กระทรวงเกรดเอกลับมาอยู่ในมืออีก ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย หรือแม้แต่กระทรวงแรงงาน เครื่องมือในการทำนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ
รอดูปีมะโรงนี้ได้ 2 พรรคนี้เพื่อไทยกับภูมิใจไทย จะทำสงครามใส่กันแน่นอน
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android