ผบก.น.4 เผยคืบหน้าคดี “ร.ต.ท.” ยิงนักธุรกิจเสียชีวิตบนทางด่วน หลังสอบปากคำนานกว่า 6 ชม. ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เตรียมขยายผลเพิ่มเติม ก่อนนำตัวฝากขังพรุ่งนี้
จากกรณี ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา หรือ นัท รองสว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ก่อเหตุยิง นายกฤษฎิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจ เสียชีวิตด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด บนทางพิเศษ (ด่วน) ฉลองรัช กม.10 ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ของวันที่ 30 ธ.ค. ต่อมาชุดสืบสวนนครบาล ชุดสืบสวน บก.น.4 และชุดสืบสวน สน.วังทองหลาง นำกำลังมาปิดล้อมบริเวณ ห้องพักรายวัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพกระทั่ง ร.ต.ท.ณรงค์วัส ออกมาจากห้องพัก จึงนำตัวและได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุดังกล่าวได้บริเวณดังกล่าว เมื่อวันนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 05.20 น. ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (30 ธ.ค.) ที่ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ เปิดเผยว่า ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ในข้อหาพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และหลังจากเข้าสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีปากเสียงกันภายในรถตู้ เพราะถูกผู้เสียชีวิตหลอกว่าจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่ติดค้าง 2 ล้านบาท และอ้างว่าจะให้การช่วยเหลือโยกย้ายตำแหน่งงานจากสายงานสอบสวนไปสืบสวน
จากคำให้การผู้ต้องหาอ้างว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในฐานะที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ว่าธุรกิจถูกฉ้อโกง ต่อมาผู้เสียชีวิตชักชวนให้มาทำงานพิเศษเป็นคนขับรถส่วนตัวและรักษาความปลอดภัย แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าส่วนตัวมีปัญหาเรื่องหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ
จากคำให้การทั้งหมดตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องขอสอบปากคำเพื่อขยายผลให้ครบถ้วนในประเด็นที่สงสัย โดยเฉพาะต้องขยายผลเรื่องธุรกิจของผู้เสียชีวิตว่าทำไมต้องจ้างให้ผู้ต้องหาไปทำงาน แต่เบื้องต้นทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หลังจากนี้จะเชิญครอบครัวผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ภายหลังจากชุดสืบสวน บก.น. 4 สอบปากคำแล้วเสร็จจะส่งตัว ร.ต.ท.ณรงค์วัส ให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัวฝากขังศาลอาญา ในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) และภายหลังจากนี้ ทางบก.น.4 จะดำเนินการทำเรื่องออกจากราชการไว้ก่อนต่อไป
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าหลังจากผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุแล้วหนีไป พบว่าได้ขับรถวนกลับมาเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือที่ทำหล่นไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเห็นว่าคู่กรณียังไม่เสียชีวิตจึงบังคับให้โอนเงินให้จำนวน 20 ล้านบาท แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอม จึงถูกยิงซ้ำจนเสียชีวิต และผู้ต้องหาขับรถหนีไป ก่อนถูกจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง