พล.ต.ต.วิชัย อดีตรอง ผบช.น.แจ้งความตำรวจ สน.ดอนเมือง เอาผิดเพจและ FC ลุงพล โพสต์หมิ่นประมาททำให้ได้รับความเสียหาย
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ สน.ดอนเมือง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. ฉายามือปราบหูดำ เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน รอง ผกก.สอบสวน สน.ดอนเมือง พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปภาพและเสียง ข้อความต่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ “เพจมาดามจัดให้” และบุคคลที่พูดอยู่ในเพจ และกลุ่มที่ได้แสดงความคิดเห็นเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ทำให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนได้ไปออกรายการ “โหนกระแส” ของหนุ่ม กรรชัย ที่ช่อง 3 ร่วมกับ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร อดีตผบช.ปส หรือทุกรายการที่ตนไปออกรายการนั้น เพื่อให้ความรู้ ให้ความคิด วิเคราะห์ ด้านสอบสวนและกฎหมายในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำตัดสินนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ไม่ได้ไปกล่าวหาว่าใครเลวหรือใครชั่ว
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า แต่มีเพจ “มาดามจัดให้” ได้นำเสนอและคอมเมนต์แสดงความเห็นเข้ามาในเพจดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และในเพจดังกล่าวยังได้นำรูปภาพของตนและพล.ต.ท.เรวัชไปติดไว้ ซึ่งมีการแสดงความเห็นเข้ามากันมากมาย บางรายได้ใช้คำที่รุนแรงและกล่าวหาตนไปในทางที่เสียหาย แต่ภาพด้านหลังเป็นรูปภาพของตน
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า ทำให้ตนถูกเข้าใจผิด และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นเพจต่าง ๆ ที่มากล่าวหาต้องได้รับผลที่กระทำไป คนเหล่านี้บางคนไม่มีประโยชน์ ทำแต่ความชั่วแล้วมาหาประโยชน์จากคนอื่น ซึ่งตนจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่ นายอนุชิต ยูทูบเบอร์ดังและเป็น Fc.ลุงพล ได้ไปบวชภายหลังจากที่พล.ต.ท.เรวัช แจ้งความดำเนินไปก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การบวชนั้นเป็นเรื่องตามแนวความคิดของคุณ การบวชเป็นสิ่งดี แต่การบวชที่คุณไปทำผิดกฎหมาย ไปฆ่าคนตาย ไปดูถูกเขา ไปหมิ่นประมาทเขา ไปทำคดีอื่นๆ แล้วมาบวช
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า แบบนี้สังคมก็เสียหาย ทุกคนก็จะทำแบบนี้หมด อย่าเอาวิธีการแบบนี้มาใช้กับตน ตนไม่มีการให้อภัย ไปบวชนะดี จะได้รู้ชั่วดี ยิ่งบวชนะดียิ่งจับง่าย ส่วนคนอื่นที่จะมาขอขมา ไม่ต้องมาเสียเวลาเปล่า
ด้าน พ.ต.ท.โอสถ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ และรอพยานหลักฐานอีกบางส่วน ที่ผู้แจ้งจะนำมาส่งมอบให้ คาดว่าหลังปีใหม่ จะออกหมายเรียกผู้ที่กระทำความผิดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาได้ เบื้องต้นในความผิดฐานหมิ่นประมาท และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์