นายกสมาคมไวยาวัจกร ร้องกองปราบ ตรวจสอบผู้ปกครอง - ทีมแอดมิน 60 คนที่อยู่เบื้องหลัง "น้องไนซ์" ร่างอวตาร องค์เพชรภัทรนาคานาคราช เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่?
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เข้าพบ พ.ต.ท.ศราวุธ ไชยรัตน์ รอง ผกก.สอบสวน กก.5 บก.ป. ให้ช่วยตรวจสอบ น้องไนซ์ เทวานิรมิตจุติ เด็กชายวัย 8 ขวบ เป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช สามารถเชื่อมจิต หยั่งรู้เรื่องราวต่างๆ ทั้งในอดีต และอนาคต พร้อมนำหลักฐานภาพถ่ายรวมถึงคลิปที่มีการเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลต่างๆ มอบไว้เป็นหลักฐาน
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวว่า อยากให้กองปราบปรามดำเนินการตรวจสอบกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังโดยเฉพาะผู้ปกครองและทีมแอดมินกว่า 60 คน ว่ามีการหาผลประโยชน์จากเด็กวัย 8 ขวบ หรือไม่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเพื่อจะด่าว่าเด็ก เพราะเชื่อว่ามีการใส่ความรู้ผิดๆ ให้กับตัวเด็ก จนนำมาสู่การกระทำที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งในความผิดดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพราะเท่าที่ทราบกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง มีการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรม และเปิดคอร์สอบรมเชื่อมจิตต่างๆ ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชน และขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าจะเข้าข่ายฐานความผิดฟอกเงินหรือไม่
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่าหลักการการเชื่อมจิต ตามหลักพระพุทธศาสนา ไม่สามารถดำเนินการแทนกันได้ โดยตามหลักพระพุทธศาสนา บุคคลที่จะบรรลุธรรมได้ต้องเกิดแก่ตนเอง ไม่ใช่ให้บุคคลอื่นมาเป็นผู้กระทำ โดยขอท้าให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับน้องไนซ์ มาดีเบตกันได้ทุกรายการหากกล้าพอ เพราะยังมั่นใจว่า ตามหลักพระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนนี้
"ฝากถึงสำนักพระพุทธศาสนา ขอให้เข้ามาตรวจสอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากแม้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ แต่การนำหลักความเชื่อทางศาสนาพุทธมาใช้ในทางที่ผิดแบบนี้ สำนักพระพุทธศาสนา ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลความถูกต้องของหลักคำสอนทางศาสนา ก็ควรต้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลให้ถูกต้อง" นายศุภภัทร์พจน์ กล่าว