“เศรษฐา-ชูวิทย์” ไกล่เกลี่ย เตรียมถอนฟ้องคดี หลังนายกฯ ฟ้องฐานหมิ่นประมาท กล่าวหาเเสนสิริเลี่ยงภาษี และชูวิทย์ฟ้องกลับข้อหาฟ้องเท็จ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แถมฟ้อง “วิญญัติ” ผิดมรรยาททนาย แต่ต้องเลื่อนการถอนฟ้องไปก่อน เหตุรอเอกสารมอบอำนาจจากชูวิทย์ถอนข้อกล่าวหาผิดมรรยาททนายความ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายบุญชัย วสุนทรา ทนายความ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักธุรกิจอาบอบนวดชื่อดัง นัดแถลงข่าวเรื่องถอนฟ้องความคดีที่นายเศรษฐา ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่นายชูวิทย์ออกมาระบุถึงบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีการซื้อขายที่ดินกับเอกชนและมีพฤติการณ์การหลีกเลี่ยงภาษี เเละคดีที่ นายชูวิทย์ ฟ้องกลับ นายเศรษฐา และ นายวิญญัติ ทนายความ ในข้อหาฟ้องเท็จ หมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและยื่นคำร้องเรื่องผิดมรรยาททนายความของนายวิญญิติ ชาติมนตรี
ซึ่ง นายวิญญัติ ทนายความ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ให้เป็นทนายความ ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ แล้วนายชูวิทย์ฟ้องกลับ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีคดีกันอยู่ในศาลอาญา ขั้นตอนอยู่ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งต่อไปวันที่ 22 ม.ค. 2567 ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ ที่ได้มีการเจรจาประนีประนอมตกลงกันว่าเราควรจะยุติปัญหาเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ยังมีประเด็นที่นายชูวิทย์ไปยื่นคำร้องกล่าวหาตัวตนในฐานะทนายความให้เป็นคดีผิดมรรยาททนายความที่สภาทนายความ แต่การจะถอนคำร้องนี้มันจะต้องมีการมอบอำนาจอย่างชัดเจนซึ่งขั้นตอนยังติดปัญหา เรื่องหนังสือมอบอำนาจเเละคำรับรองการถอนคำกล่าวหาคดีมรรยาททนายความจากต่างประเทศยังมาไม่ถึง ทำให้เอกสารไม่ครบอันอาจไปกระทบเงื่อนไขในการถอนคดีในศาลอาญา ซึ่งอาจเป็นปัญหาในอนาคตจึงต้องขอเลื่อนการยื่นถอนฟ้องออกไปอีกเพื่อรอหนังสือของนายชูวิทย์
สำหรับประเด็นสาเหตุที่มีการถอนฟ้องกัน คือ นายเศรษฐา ซึ่งเป็นผู้นำประเทศได้พูดคุยชี้แจงต่อสาธารณชน และได้ชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา ในประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยของนายชูวิทย์ไปแล้ว จนกระทั่งได้เข้ารับตำแหน่งอย่างสมเกียรติและสง่างาม ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจกัน ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันในเรื่องคดีความด้วย โดยส่วนตัวก็ไม่ติดใจ แต่ก็ต้องรอทางนายชูวิทย์แสดงเจตนาที่ชัดเจน ซึ่งตนก็เชื่อว่า นายชูวิทย์ ไม่ติดใจนายเศรษฐาเช่นกัน แต่กระบวนการขอให้รออีกนิดนึง
เมื่อถามว่า ฝ่ายใดเริ่มขอไกล่เกลี่ยก่อนนั้น มันเป็นเรื่องที่พูดยาก เรื่องนี้ปัญหาอยู่ที่การเข้าใจและการนำเสนอข้อมูลต่อสาธารณะ ตนคิดว่า นายเศรษฐา เป็นคนมีเมตตาธรรม ส่วนตรงนี้จะเป็นเป็นเหตุผลหรือไม่ ตนก็ยืนยันแทนไม่ได้
ส่วนที่ถามว่า ตรงนี้มีบทบาทของศาลที่ให้มีการไกล่เกลี่ยกันด้วยหรือไม่นั้น ศาลเห็นว่าเป็นคดีที่เกิดจากราษฎรทั้งสองฝ่ายมีข้อผิดพลาดกัน และคดีมันสามารถที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่เป็นคดีความ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ศาลอำนวยการให้ ซึ่งศาลเห็นว่าในเมื่อคดีมันมีโอกาสมันตกลงยุติคดีกันได้ก็เป็นเรื่องที่ดีก็จะได้ไม่เพิ่มจำนวนคดีให้ศาลเพราะกระบวนการพิจารณาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายมีต้นทุนหมดซึ่งการไกล่เกลี่ยครั้งนี้เป็นในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
นายบุญชัย ทนายความ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ข้อพิพาทคดีความอาญาสามารถถอนฟ้องโดยอำนาจศาล ส่วนกระบวนการทางคดีมรรยาทหากมีฝ่ายร้องมาถอดถอนคำกล่าวหาจะถอนได้หรือถอนไม่ได้มันเป็นเรื่องของคณะกรรมการมรรยาทแต่ในกรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ว่านายชูวิทย์ยังไม่ได้ทำเอกสารเรื่องของการถอนคำกล่าวหาซึ่งมีเงื่อนไขของการถอนฟ้องคดีของทั้งสองฝ่ายงั้นจึงขอให้พวกเรารอเอกสารจากทางนายชูวิทย์ให้เรียบร้อยก่อนซึ่งนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22 ม.ค.ขั้นตอนเอกสารก็ควรจะต้องเสร็จก่อนนัดไต่สวนดังกล่าว