ขี่ยาเมาเหล้าชวนญาติขึ้นรถไปรับเสื้อผ้า มองไม่เห็นหนุ่มโรงงานขับรถกระบะ ขับเสยท้ายทั้งรถทั้งคนถูกลาก ไปไกลเกือบ 100 เมตร ร่างเละ ตร.วัดแอลกอฮอล์คนขับ 167 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนรถ จยย. ก่อนลากไกลกว่า 100 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มปตท. ถ.ราชพฤกษ์ (มุ่งหน้า ถ.345) จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณพงหญ้าข้างทางก่อนทางเข้าปั๊มปตท. ถ.ราชพฤกษ์ พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือนายจักรพงษ์ วัชระชัยพงษ์ อายุ 26 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง จุดสน.ทุ่งสองห้อง ใส่เสื้อโปโลสีฟ้า สวมกางเกงขายาวสีกรมท่า สภาพศพมีบาดแผลบริเวณใบหน้า ถัดไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ แคปสีดำ หมายเลขทะเบียน 3 ฒน 3890 กทม. พลิกตะแคง สภาพรถพังยับ ทราบชื่อคนขับคือนายนิกร ทำดี อายุ 29 ปี ชาว จ.หนองคาย นายอุเทน ชมภูประเภท อายุ 24 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี (คนนั่งด้านหน้า) และนายสุธิพงษ์ อินละวงศ์ อายุ 20 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี (คนนั่งในแคปรถกระบะ) ใกล้กันพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) เป็นรถของผู้เสียชีวิต สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน
นายมาวิน มีมา อายุ 24 ปี เป็นเพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากหัวหน้างานว่าเพื่อนถูกรถกระบะชนเสียชีวิต ขณะขี่รถจยย.กลับบ้าน ตนจึงเข้ามาดูที่เกิดเหตุ ถามจากคนที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าคนขับรถกระบะเมา และมีคนอยู่ในรถกระบะประมาณ 3 คน เพื่อนตนถูกรถกระบะชนท้ายและรถถูกลากมาไกลมาก ตนรับสภาพเพื่อนไม่ได้เพราะเพื่อนตนสภาพศพเละมาก ตนเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว นั่งกินข้าวด้วยกันทุกวัน ซึ่งคนในรถกระบะตอนนี้กำลังไปเป่าแอลกอฮอล์ที่ สภ.ชัยพฤกษ์
นายสุธิพงษ์ อินละวงศ์ อายุ 20 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี (คนนั่งในแคปรถกระบะ) เล่าว่า ตนกับพี่ชายที่ขับรถกระบะ และเพื่อนอีกคนกำลังจะขับรถไปเอาเสื้อผ้า ซึ่งคุยกันไว้ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว พอหลังเลิกงานจึงชวนกันดื่มต่อกันเต็มที่ และชวนกันขับรถมาแต่พี่ที่ขับรถขับด้วยความเร็วเกิน 100 กม. กว่า ซึ่งตนก็เมาแล้วเมากันทั้งหมด 3 คน ขับเร็วจนมองไม่เห็นเหตุการณ์ว่ารถจยย. ขับมาอยู่ตรงไหน คาดว่ารถจยย.อยู่ข้างหน้ารถกระบะ และพี่ชายตนขับมาเร็วทำให้ชนท้ายเต็มที่ และลากไกลไปถึงหน้าปั๊ม
หลังจากนั้นตนจึงลงไปดูว่ารถจยย.อยู่ตรงไหนและคนขับจยย.ตกอยู่ที่ไหน พบว่าคนขับรถจยย.เสียชีวิตแล้ว มีเลือดออกปากจำนวนมาก ถามตอบไม่ได้แล้ว พอหันหลังกลับมาก็เห็นกู้ภัยมาพร้อมผ้าขาว ตนรู้สึกแย่ เพราะพวกตนเมา ตนคงโดนสาปแช่ง เพราะถ้าเป็นครอบครัวเราเราก็จะสาปแช่งเช่นกัน ซึ่งตนได้เตือนพี่ชายที่ขับรถกระบะแล้วว่าให้ขับเบาๆ เตือนมาตลอดทาง และตอนแรกตนจะเป็นคนขับให้แต่พี่ชายไม่ยอม
จากการสอบสวนคนขับรถกระบะ ยอมรับว่าได้ดื่มแอลกอฮอล์มาก่อน ซึ่งปกติไม่เคยดื่มจะเสพยาอย่างเดียว วันนี้อยากลองดื่มเหล้า และกำลังจะไปเอาเสื้อผ้ากับรุ่นน้องที่บ้าน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจแอลกอฮอล์พบว่าสูงถึง 167 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดจึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป