xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ขยายผลพบเพิ่ม! จนท.รัฐ 2 หน่วยงานเอี่ยวบริษัทชิปปิ้งนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ”ดีเอสไอ“ พบเส้นทางการเงินโยงเจ้าหน้าที่รัฐ 2 หน่วยงาน-บ.ชิปปิ้งนำเข้าหมูเถื่อนจ่อขยายผล ส่วนเข้าค้นห้องเย็น จ.นครปฐม เตรียมเรียก กก.บริษัท สอบปากคำเพิ่มเติม

วันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 15.30 น. ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ , พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , พล.ต.ต. พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และ นายวิทยา นีติธรรม โฆษกประจำสำนัก ปปง. ร่วมแถลงผลความคืบหน้าขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (คดีพิเศษ 59/2566) จำนวน 161 ตู้ หนักประมาณ 4.5 ล้านกิโลกรัม

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ ดีเอสไอ ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 59/2566 มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องการกระทำผิดไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 แล้ว อันเป็นการดำเนินการเฉพาะส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 1 สำนวนคดี และมีการแยกคดีพิเศษดำเนินคดีกับบริษัทชิปปิ้งเอกชน 9 คดี ที่เป็นบริษัทปรากฏหลักฐานว่านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ประกอบด้วยคดีพิเศษที่ 101-109/2566 ซึ่งมีการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องทุกคดี น่าเชื่อว่ามีการลักลอบนำเข้าซากสุกรอีกจำนวน 2,385 ตู้ ปริมาณ 59,625 ตัน โดยมี 2 คดีเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ 2 หน่วยงาน หลังพบหลักฐานเส้นทางการเงินและขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ก่อนส่งสำนวน ป.ป.ช. ในขั้นตอนไป

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 แห่ง ในพื้นที่ จ.นครปฐม คดีพิเศษที่ 103/2566 วานนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากพบเส้นทางการเงิน 259 ล้านบาท เชื่อมโยงการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนของบริษัท นายวิรัช และนายธนกฤต ภูริฉัตร (สองพ่อลูก) กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด WEALTY & HEALTHY FOODS CO.,LTD. แต่ไม่มีการทำธุรกรรมซื้อขายแต่อย่างใด

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีการตรวจยึดพยานหลักฐาน รวมทั้งพบการกระทำผิดซึ่งหน้า 1 จุด เป็นบริษัทประกอบธุรกิจห้องเย็น ตั้งอยู่ในพื้นที่ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม ตรวจพบซากสุกร (หมูสามชั้น) จำนวน 11 ตัน ไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายซากสัตว์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ได้ดำเนินการตรวจยึดซากสุกรดังกล่าวเพื่อส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือก ดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากพื้นที่จ.นครปฐม เป็นพื้นที่ประกาศควบคุมโรคอหิวาตกโรคในสุกร (ห้ามไม่ให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตห้ามเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต) อันเป็นการป้องกันเหตุไม่ให้พี่น้องประชาชนต้องบริโภคหมูที่ไม่ถูกสุขลักษณะด้วย ซึ่งคาดว่าลักลอบจำหน่ายในพื้นที่

“ทั้งนี้ จากเอกสารของทางบริษัทห้องเย็นแห่งนี้ มีชิ้นส่วนสุกรเข้ามาแช่เข็งจำนวน 253 ตัน ถูกนำออกไปจากระบบแล้ว 114 ตัน ยังคงเหลืออยู่ที่โรงแช่เย็นจำนวน 84 ตัน ส่วนที่เหลืออีก 55 ตัน ไม่มีระบุในเอกสาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตรวจสอบว่าเนื้อส่วนนี้หายไปไหน ล่าสุดปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ร่วมกับดีเอสไอ เข้าตรวจสอบอีกครั้ง พบเนื้อหมูตกค้างในบริษัท 61 ตัน ซึ่งยังคงต้องตรวจสอบต่อไป”

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวเสริมว่า หลังจากนี้ ดีเอสไอจะเรียก 4 กรรมการตัวแทนบริษัทกลุ่ม จ.นครปฐม มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะพบว่ามีกลุ่มสุดท้ายที่จะขยายผลเป็นผู้โอนเงินมาให้ ก่อนกลุ่มบริษัท จ.นครปฐม โอนไปยังบริษัทสองพ่อลูก และโอนต่อ บริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด ก่อนโอนเงินต่อไปต่างประเทศ รวมถึงพบความผิดปกติที่กลุ่มบริษัท จ.นครปฐม มีใบเคลื่อนย้าย จำนวน 3 ชุด ซึ่งมากกว่าผิดปกติ

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้แทนของบริษัท สยามแม็คโคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสารจำนวนกว่า 50 รายการ ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งนึงของเอกสารทั้งหมด ซึ่งตัวแทนเปิดเผยว่าจะทยอยนำเอกสารที่เหลือเข้ามามอบให้กับพนักงานสอบสวน โดยไม่กำหนดระยะเวลาเพราะเอกสารต้องรวบรวมจากหลายแห่ง ส่วนประเด็นข้อสงสัยว่าบริษัท สยามแม็คโคร ประวิงเวลายื่นหลักฐานจะทำให้มีการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ ยืนยันไม่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นเอกสารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐ เพราะเอกสารต้องตรงกันตั้งแต่บริษัทนำเข้า ห้องเย็นและปลายทางบริษัท สยามแม็คโคร

“นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จะรวบรวมเอกสารมายืนยันว่าทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ”

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ในส่วนกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องต่อ บก.ปปป. ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและอดีตนักข่าว 2 คน เรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเดินเรือ จำนวน 12 ล้านบาทนั้น ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ที่ถูกพาดพิง

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีการขยายผลตรวจค้นและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นกลุ่มนายทุน ข้าราชการการเมือง และอดีตข้าราชการ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง นอกจากนี้ มีการคุ้มครองพยานแก่พยานรายสำคัญเป็น เจ้าหน้าที่รัฐและบริษัทชิปปิ้ง รวม 2 ราย อย่างไรก็ตาม ยังมีมาตรการใช้กฎหมายฟอกเงินดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดที่รับโอนหรือเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินเพื่อหลบเลี่ยงภาษีเพิ่มเติม

ขณะที่ นายวิทยา กล่าวสั้นๆ ว่า สำหรับทรัพย์สินทาง ปปง. ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ในคดีหมูเถื่อน ความผิดมูลฐานฟอกเงินแล้ว 53 ล้านบาท โดยสัปดาห์หน้าจะมีผลการดำเนินการเพิ่มเติม




กำลังโหลดความคิดเห็น