MGR Online - ”ดร.ธนกฤต” ขอ ยธ. ตรวจสอบ 3 ประเด็นกรมราชทัณฑ์ “อาหารแพง-รีดไถ-ทำร้ายร่างกาย” ตามจดหมาย “เสี่ยแป้ง” หวังให้มอบตัวโดยเร็ว
วันนี้ (30 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นจดหมายข้อเรียกร้องของ นายเชาวลิต ทองด้วง “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคดี โดยมี นายสมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์เป็นหลักตามที่นายเชาวลิต ส่งจดหมายขอความเป็นธรรมผ่านทนายความไปยัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ และ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ใน 3 ประเด็นจากทั้งหมด 7 ข้อ คือ 1. ประเด็นสินค้ามีราคาแพงกว่าปกติในเรือนจำกลางพัทลุง 2. มีผู้ต้องขัง 393 ราย ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงิน และ 3. มีผู้ต้องขัง 2 ราย ที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ถูกผู้คุมลงโทษทำร้ายร่างกาย ซึ่งทั้งหมดต้องมีการตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ และตนสามารถดำเนินการให้ได้ 6 ข้อ ยกเว้นข้อ 1 ที่ไม่สามารถไปแทรกแซงได้ เพราะตนไม่ก้าวล่วงดุลพินิจของศาล หากนายเชาวลิตต้องการจะขอประกันตัว ก็ต้องเข้ามามอบตัวก่อน และขณะนี้ตนมั่นใจว่านายเชาวลิต กำลังติดตามข่าวที่ออกมาอย่างใกล้ชิด
นายกองตรี ดร.ธนกฤต เผยว่า สำหรับเรื่องสินค้าแพงในเรือนจำดังกล่าว สมัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยได้รับการร้องเรียนและกรมราชทัณฑ์เคยตรวจสอบ พบว่า มีราคาที่แตกต่างกันอยู่ 1 บาท ซึ่งอาจให้เจ้าหน้าที่ลงไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนประเด็นการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขัง 2 ราย และผู้ต้องขัง 393 ราย ในเรือนจำนครฯ ลงรายชื่อร้องเรียนถูกตำรวจรีดไถ่ หากใครที่พ้นโทษแล้ว ก็จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิ์ให้ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน เพื่อความปลอดภัยของบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังรัฐมนตรี สมศักดิ์ พ้นตำแหน่งไปแล้ว ก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายกองตรี ดร.ธนกฤต เผยอีกว่า ในส่วนจดหมาย 3 ฉบับ แบ่งเป็น ฉบับแรกของผู้ต้องขังรายหนึ่ง โดยมีนายเชาวลิตลงชื่อเป็นพยาน ร้องเรียนเรื่องการถูกเรียกรับเงินผู้ต้องขังในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 393 ราย ส่วนฉบับ 2 กับ 3 เป็นของนายเชาวลิตที่ร้องเรียนเองเกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์และในเรื่อง 7 ข้อดังกล่าว ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าญาติของนายเชาวลิตกังวลเรื่องความปลอดภัย สามารถขอให้หน่วยงานในพื้นที่ลงไปช่วยคุ้มครองพยานได้
นายกองตรี ดร.ธนกฤต เผยต่อว่า ทราบว่า รมว.ยุติธรรม ได้ตั้ง “คณะกรรมการตรวจสอบกรณีนักโทษเด็ดขาดหลบหนีและร้องขอความเป็นธรรม” โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมราชทัณฑ์, สำนักงาน ป.ป.ส. และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคณะกรรมการร่วม
“ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ ไม่ได้รู้จักเสี่ยแป้ง และไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำงานของใคร ผมทำตามสิ่งที่รับการร้องขอเพื่อนำตัวเสี่ยแป้งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็วไม่มีเกินไปกว่านั้น เพราะไม่ต้องสูญเสียทั้งงบประมาณและเวลา ทำให้เรื่องมันจบเร็วขึ้น”
ด้าน นายสมภพ ชี้แจงว่า นายเชาวลิต ร้องเรียนมาทั้ง 3 ประเด็น คือ เรือนจำกลางพัทลุง มีการร้องเรียนว่า มีการขายสินค้าราคาแพง ยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์มีระเบียบและขั้นตอนการจำหน่ายสินค้าสวัสดิการให้กับผู้ต้องขัง จะต้องไม่ขายเกินราคาท้องตลาด และต้องมีการเปรียบเทียบราคาคู่ค้าระหว่างเรือนจำใกล้เคียงทุก 3 เดือน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะได้มีการตรวจสอบมีการจำหน่ายสินค้าราคาแพงจริงหรือไม่อย่างไร หากมีการกระทำจริง ก็ถือว่าผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์
นายสมภพ กล่าวว่า ส่วนเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กรณีประเด็น 393 คน ที่ลงรายชื่อว่ามีการรีดไถของตำรวจ กรมราชทัณฑ์จะลงไปสืบข้อเท็จจริงเช่นกัน ว่า มีข้อเท็จจริงและที่ไปที่มาอย่างไร และมีใครบ้างที่ร่วมลงชื่อ ส่วนอีก 2 รายที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าได้มีการปรับปรุงและกำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ไม่มีการทรมานหรือทำร้ายผู้ต้องขังและที่ผ่านมามีการเข้าไปตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ ร.ต.อ.วิษณุ เผยสั้นๆ ว่า ในส่วนของ ดีเอสไอ ก็จะดำเนินตามคณะกรรมการ เข้าไปช่วยตรวจสอบและหากนายเชาวลิต ขอเข้ามอบตัวก็พร้อมเข้าไปคุ้มครองและดูแลความปลอดภัยตามขั้นตอน