xs
xsm
sm
md
lg

ปปง. จับมือ อส. ประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามทรัพย์สินคืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 8

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ปปง. ร่วม สำนักงานอัยการสูงสุดจัดการประชุมสามัญประจำปี และประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายประสานงานด้านการติดตามทรัพย์สินคืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 8

วันนี้ (29 พ.ย.) ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเรเนอร์ซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) พร้อม นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญประจำปีและประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายประสานงานด้านการติดตามทรัพย์สินคืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 8 (8th ARIN-AP Annual General Meeting and Workshop) ภายใต้หัวข้อ Synergy for Effective Confiscation of the Proceeds of Crime ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยในฐานะสมาชิกก่อตั้งของเครือข่าย ARIN - AP ได้ดำรงตำแหน่งประธานเครือข่าย ARIN-AP วาระปี พ.ศ. 2566 (ครั้งที่ 8) ต่อจากประเทศนิวซีแลนด์

นายเทพสุ กล่าวว่า ความสำคัญของการติดตามคืนทรัพย์สินและความร่วมมือระหว่างประเทศที่นับวันจะยิ่งทวีความสำคัญและถือเป็นสิ่งที่มิอาจมองข้ามได้ อันสะท้อนถึงความเสี่ยงจากกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รายได้จากการทุจริต การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความเสื่อมสลายของหลักนิติรัฐ ประกอบกับในปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้อาศัยความซับซ้อนทางกฎหมายและความแตกต่างของมาตรการการกำกับดูแลในการก่ออาชญากรรม

“ด้วยเหตุนี้ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกรอบกฎหมาย เพื่อติดตามคืนทรัพย์สินของแต่ละประเทศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งที่จะสามารถต่อสู้กับกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายได้เพียงลำพัง” เลขาธิการ ปปง. กล่าว

ด้าน นายจุมพล เผยว่า ARIN - AP มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศสมาชิกในการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคืนจากต่างประเทศ โดย ARIN - AP ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2556 และปีนี้นับเป็นปีที่ 10 ของการจัดตั้ง ARIN - AP ซึ่งประเทศสมาชิกประสานความร่วมมือกันภายใต้แนวคิด Synergy for Effective Confiscation of the Proceeds of Crime การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญในการเอาชนะความท้าทายจากความแตกต่างของกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการติดตามทรัพย์สินในแต่ละประเทศ รวมทั้งร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

นายจุมพล เผยอีกว่า ARIN-AP จัดตั้งขึ้นเพื่อประสานงานด้านการติดตามทรัพย์สินคืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการบังคับใช้กฎหมายในกระบวนการติดตามทรัพย์สินคืนจากต่างประเทศ (Asset Recovery) ด้านการยึดอายัด ริบทรัพย์สิน การบริหารจัดการทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัด การคืน ตลอดจนการแบ่งปันทรัพย์สินระหว่างประเทศที่มีเขตอำนาจศาลต่างกัน โดยสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงาน ปปง. เป็นผู้ประสานงานเครือข่าย ARIN-AP ของประเทศไทย มีสำนักเลขาธิการของ ARIN-AP อยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

นายจุมพล เผยต่อว่า ปัจจุบัน ARIN - AP มีสมาชิกจำนวน 28 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ บรูไน ศรีลังกา กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ไต้หวัน อินเดีย หมู่เกาะคุ๊ก (Cook Islands) ปากีสถาน เมียนมา มองโกเลีย คาซัคสถาน เวียดนาม เกาหลีใต้ ปาปัวนิวกินี ปาเลา เนปาล เตอร์กิสถาน ตองกา ฟิลิปปินส์ ตูวาลู มัลดิฟส์ ประเทศไทย และมีหน่วยงานระหว่างประเทศหรือเครือข่ายเป็นผู้สังเกตการณ์ อาทิ Interpol FATF

นายจุมพล กล่าวเสริมว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพและความพร้อมเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมาย กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาและกฎหมายฟอกเงิน เพื่อยกระดับความร่วมมือในกลุ่มเครือข่ายผู้บังคับใช้กฎหมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาตรการดำเนินการติดตามทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถตัดวงจรอาชญากรรมและลดแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมจากการดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมโดยพุ่งเป้าไปที่แหล่งเงินทุนในการกระทำความผิด

นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ หารือกันแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ความร่วมมือการยึดอายัด และการติดตามเพื่อจัดการกับประเด็นท้าทายอื่นๆ อาทิ การยึดอายัดและบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลและการริบทรัพย์ตามมูลค่า อีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น