รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ปลิงทะเล ราคากิโลเฉียดหมื่น ดึงประมงเวียดนาม บุกทะเลไทย
จากกรณีข่าวกลุ่มชาวประมงจังหวัดนครศรีธรรมราชร้องเรียนว่า เรือประมงเวียดนามจำนวนมากล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย ถึงขนาดปิดอ่าวนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทะเลตอนใต้ตั้งแต่จังหวัดสงขลาขึ้นมาจนถึงเกาะสมุยเพิกเฉยมิได้ดำเนินการใด ๆ ทำให้เรือประมงไทยได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
เพราะถูกแย่งที่ทำมาหากินและทำให้ทรัพยากรในอ่าวไทยถูกเบียดบังไปด้วยฝีมือเรือประมงต่างชาติ
แหล่งข่าวจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือ “ศรชล” ให้ข้อมูลว่า
สาเหตุสำคัญที่ทำให้น่านน้ำไทยตอนกลางถึงตอนล่างบริเวณใกล้กับแนวเขตเศรษฐกิจจำเพาะเป็นเป้าหมายของเรือประมงเวียดนามมาจากการที่ตลอดแนวดังกล่าวเป็นบริเวณที่มี “ปลิงทะเล”อยู่เป็นจำนวนมาก
แม้ปลิงทะเลจะมิใช่สัตว์สงวนตามประกาศของกรมประมงที่ห้ามจับโดยเรือประมงไทย แต่เครื่องมือจับปลาที่อยู่ในประกาศห้ามใช้โดยเรือประมงไทยก็คือ “คราด” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการลากเพื่อจับสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลิงทะเลได้ครั้งละมาก ๆ
เรือประมงเวียดนามที่ใช้คราดเป็นเครื่องมือหนึ่งในการจับปลาจึงลักลอบเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเพื่อจับปลิงทะเลเป็นหลัก เนื่องจากปลิงทะเลมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 8,000 บาท และเป็นที่นิยมบริโภคทั้งในเวียดนาม จีน ไทย และหลายประเทศ
แม้เรือประมงเวียดนามที่ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำไทยส่วนใหญ่จะเป็นเรือประมงขนาดเล็ก แต่การจับสัตว์น้ำในแต่ละเที่ยวโดยใช้คราดเป็นเครื่องมือ ทำให้เรือประมงเหล่านั้นสามารถจับปลิงทะเลได้เที่ยวละหลายร้อยกิโลกรัมคิดเป็นมูลค่าหลายแสนบาท
ผลตอบแทนที่มีมูลค่าสูงดังกล่าว จึงเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เรือประมงเวียดนามกล้าที่จะเสี่ยงล่วงล้ำเข้ามาในเขตไทย โดยใช้เรือที่มีขนาดเล็กตรวจพบจากระยะไกลได้ยาก และเข้ามาเป็นกลุ่มๆ ละไม่เกิน 10 ลำและไม่เปิดอุปกรณ์สื่อสาร
เมื่อเรือของหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลของไทย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจน้ำ กรมประมง กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตรวจพบหรือได้รับแจ้งเหตุการล่วงล้ำอาณาเขตและรีบนำเรือไปยังบริเวณดังกล่าว กลุ่มเรือประมงเวียดนามก็จะกระจายตัวแยกย้ายกันหลบหนี ทำให้เรือของฝ่ายไทยซึ่งออกลาดตระเวนเพียงลำเดียวและเป็นเรือใหญ่ อีกทั้งมิได้ใช้อาวุธจึงไม่สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะจับได้เพียงครั้งละ 1-2 ลำ เท่านั้น
สำหรับพื้นที่ซึ่งเคยมีการตรวจพบและจับกุมเรือประมงเวียดนามจะอยู่ในแนวเขต 35 ไมล์ทะเลจากเกาะสมุย และ 25 ไมล์ทะเลจากเกาะกระลงไปจนกระทั่งถึงจังหวัดสงขลา
โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา มีการจับกุมเรือประมงเวียดนามได้หลายครั้ง แต่จำนวนรวมกันก็ไม่ได้สูงขนาดหลายร้อยลำอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเรือประมงเวียดนามเข้ามายึดอ่าวไทยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำเป็นในการเสริมให้การควบคุมดูแลทะเลไทยของหน่วยงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ก็คืองบประมาณทั้งในส่วนที่เป็นงบลงทุนสำหรับจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ เรดาร์ชายฝั่งตลอดจนจำนวนเรือที่เหมาะสมและงบดำเนินการทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุสิ้นเปลืองและเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่กำลังพล
งบประมาณเหล่านี้ต้องได้รับการจัดสรรอย่างเหมาะสม และเพียงพอที่จะตอบสนองภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกมิติ
ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลยืนยันว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการกำกับดูแลการปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้บูรณาการการปฏิบัติทั้งการลาดตระเวณร่วม การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจของกันและกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน
แต่ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือ แรงจูงใจที่ทำให้เรือประมงเวียดนามกล้าเสี่ยงที่จะฝ่าด่านเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรทางทะเลไปจากน่านน้ำไทย
หากปลิงทะเลยังมีราคาสูงและแหล่งชุมนุมของมันยังคงอยู่หนาแน่นอยู่ในบริเวณเดิมโดยไม่มีการโยกย้ายถิ่น ทั้งโดยธรรมชาติหรือการจัดการของหน่วยงานของไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ตราบนั้นปัญหาเรือประมงขนาดเล็กของเวียดนามที่ลอดผ่านตาข่ายหน่วยงานทางทะเลของไทย ก็คงจะยังไม่หมดสิ้นลงไปโดยง่าย เหมือนพลิกฝ่ามือ
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1