xs
xsm
sm
md
lg

นักกฎหมายชี้ ใช้แบงก์กาโม่หยอดตู้เติมเงิน มีความผิดฐาน “ฉ้อโกง” จำคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ทนายรณณรงค์ เผย ไม่ใช่เรื่องตลก นำแบงก์กาโม่เติมเงิน มีความผิดโทษหนักจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ฐานฉ้อโกง
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 โพสต์ข้อความพร้อมคลิปเตือนภัย มิจฉาชีพใช้แบงก์กาโมเติมเงินตู้เติมเงินออนไลน์แบบใช้เหรียญและธนบัตร โดยระบุข้อความว่า "คลิปอุทาหรณ์และการป้องกัน ให้กับผู้ประกอบการ แบงก์กาโมเติมเงินก็ได้ บ้านใครเปิดบริการตู้แบบนี้ เช็กด่วนนะครับ โดนมาแล้วนะครับ ช่วยกันแชร์นะครับ"
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อกฎหมายกับทางด้านนายรณณงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า การกระทำที่นำมาลงโซเชียลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้จะเป็นการทำคลิปล้อเลียนกันแบบนี้ ทำให้ตู้หลงเชื่อ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียเงินในการเตรียมเงินแลกกับทางเครือข่าย เข้าข่ายฉ้อโกง เพราะทุจริตหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ตาม มาตรา 341 ผู้ใดทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่นำหยอดเข้าตู้นั้นเป็นแบงก์ปลอมหยอดตู้แล้วก็ได้ทรัพย์สินคืนมา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้หากเป็นการนำธนบัตรปลอมที่ทำขึ้นมาไม่ใช่แบงก์กาโม่ แล้วนำมาก่อเหตุลักษณะนี้ ก็จะมีความผิดตามมาตรา 244 ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใด ๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 -300,000 บาท ซึ่งการทำแบงก์ปลอมมีอัตราโทษเยอะกว่าฉ้อโกงใครคิดจะก่อเหตุลักษณะนี้ควรระวังไว้


กำลังโหลดความคิดเห็น