xs
xsm
sm
md
lg

ป.ร่วมสางคดี “ปลัดกล้า” ขับรถตกน้ำตายปริศนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



กองปราบลงพื้นที่สระแก้วร่วมสางคดี “ปลัดกล้า” ขับรถตกน้ำตายปริศนา เบื้องต้นพบพิรุธอื้อ นำคดี "บรรยิน"เป็นโมเดลวางกรอบแนวทางการสืบสวน

วันนี้ (21 พ.ย.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป. และ คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อประชุมหารือทางคดีการเสียชีวิตปริศนาของ นายคมสัน สุรณัฐกุล หรือ ป.กล้า อายุ 47 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ขับรถตกฝายน้ำล้น ถนนสายนายาว-เขาฉกรรจ์ บ้านเกาะรัง หมู่ 10 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ร่วมกับ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ นำโดย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว

ต่อมาทั้งหมดร่วมเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุริมฝายน้ำล้นอีกครั้งเพื่อตรวจสอบและเก็บข้อมูลรายละเอียดทางกายภาพของพื้นที่ดังกล่าวนำไปประกอบแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถฟันธงหรือชี้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ ต้องรอการพิสูจน์ทราบพยานหลักฐานต่างๆให้แน่ชัดก่อน จึงจะสามารถระบุได้ แต่จากข้อมูลพยานหลักฐานที่มีอยู่ ยอมรับว่า พบความผิดปกติหลายอย่าง ต้องเร่งตรวจพิสูจน์ให้หายเคลือบแคลงสงสัย ซึ่งการมาเข้าร่วมสืบสวนของตำรวจกองปราบ ก็เพื่อต้องการช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจท้องที่ให้สามารถเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเอาความรู้ประสบการณ์จากคดีฆาตกรรมอำพรางหลายๆ คดี อาทิ คดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ วางแผนจัดฉากฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ คดี ผกก.โจ้ คดีแอมไซยาไนด์ และ อีกหลายๆ คดีที่เคยทำ มาเป็นแนวทางในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำพบานบุคคลต่างๆ สอบปากคำแพทย์นิติเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแพทยสภา เพื่อพิสูจน์ทราบบาดแผล รวมไปถึงการตรวจสอบและเก็บข้อมูลหลักฐานจากรถคันที่เกิดเหตุ และ วัตถุพยานนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าเร็วๆนี้คดีจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวนั้น แม้ผลชันสูตรจะระบุว่า นายคมสัน เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากจมน้ำ รวมถึงบาดแผลที่บริเวณขมับขวาไม่ได้เกิดจากคมกระสุนก็ตามนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ หรือ เร่งรัดสรุปว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ ไม่ใช่คดีฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากยังมีข้อสงสัยที่ต้องพิสูจน์ทราบให้หายเคลือบแคลง

โดยเฉพาะประเด็นร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์บริเวณขมับขวา และ ใบหูด้านซ้ายที่ฉีกขาด จำเป็นต้องเร่งพิสูจน์ให้ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากลักษณะบาดแผลที่พบนั้นไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร เช่นเดียวกับสภาพตัวรถหลังเกิดอุบัติเหตุ ที่แทบจะไม่มีร่องรอยความเสียหายจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ได้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมหรือลักษณะทางกายภาพที่เกิดเหตุเป็นถนนคันกั้นฝายน้ำล้น พื้นผิวดินในน้ำมีลักษณะเป็นดินเลน ไม่มีวัตถุหรือของแข็งใต้น้ำ เช่นเดียวกับไม่มีรั้วขอบทางด้านข้างที่จะเป็นสิ่งกีดขวางทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรง ได้ อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนชุมชนมีน้ำไหลผ่านจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้เหมือนถนนปกติ

อย่างไรก็ตามแม้บาดแผลทั้งสองแห่งจะไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตโดยตรง แต่ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลทำให้ผู้ตายจมน้ำเสียชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากห้องปฏิบัติการนิติเวช รพ.ตำรวจ ออกอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวจะเร่งประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอบปากคำเพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่าบาดแผลดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และ เป็นแผลที่ถูกทำให้เกิดขึ้น หรือ เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้สามารถกำหนดทิศทางในการคลี่คลายปริศนาทางคดีว่าเป็นคดีอุบัติเหตุหรือคดีฆาตกรรมอำพราง

นอกจากนี้ยังมีข้อพิรุธทางคดีหลายอย่างที่ต้องพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับคำให้การของ จ.อ.เกริกชัย ผู้รอดชีวิต ที่เคยให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มเบียร์กับผู้ตายและผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่บ้านพักของผู้ใหญ่คนดังกล่าว ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก โดยนั่งดื่ม 3 คนรวมกัน 9 ขวด จากนั้นประมาณ 21.00 น. จ.อ.เกริกชัย กับ ผู้ตายจึงขอตัวกลับ โดยมีผู้ตายเป็นคนขับ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งตกน้ำ จ.อ.เกริกชัย จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงกระจกจนแตกแล้วมุดหนีเอาตัวรอดออกมาจากตัวรถ แต่จังหวะนั้นผู้ตายหนีไม่ทันติดอยู่ในรถจึงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วน จ.อ.เกริกชัย หลังขึ้นมาจากน้ำได้ก็รีบว่ายเข้าฝั่งแล้วไปนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ จนกระทั่งมีคนผ่านมาพบและเข้าให้การช่วยเหลือในรุ่งเช้าอีกวัน

จากคำให้การดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีความย้อนแย้งอยู่ในตัว เพราะหาก จ.อ.เกริกชัย มีสติสามารถเอาตัวรอดจากช่วงเวลาวิกฤติขนาดนั้นได้ เหตุใดจึงไม่รีบเดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่พักอาศัยห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 3-4 ร้อยเมตรหลังจากเกิดเหตุในทันที แต่กลับนั่งรอใต้ต้นไม้จนถึงเช้า แม้เจ้าตัวจะอ้างว่ากำลังอยู่ในอาการตกใจ และ หวาดกลัวก็ตามแต่ก็ดูไม่สมเหตุสมผล ส่วนกรณีที่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายจำนวน 1 เครื่อง อยู่กับ จ.อ.เกริกชัย นั้น อ้างว่า ขณะเกิดเหตุตกใจ จึงรีบคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ใกล้ตัว พร้อมกับอาวุธปืนติดตัวมา ไม่ทันได้ดูว่าเป็นของผู้ตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก จำเป็นต้องเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ อีกหลายปาก รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบความผิดปกติเกี่ยวกับสภาพศพของผู้ตาย เพราะขณะที่ทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำพบว่า สภาพศพอยู่ในท่าขาเหยียดตรง มือข้างขวากำพระเครื่องไว้จนแน่น ต่างจากสภาพศพของคนขับรถตกน้ำตายทั่วไป ที่มักจะอยู่ในสภาพท่านั่งขับรถ อีกทั้งจากการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้รอดชีวิต พบว่ามีการยิงทั้งหมด 4 นัด กระสุนออกจากรังเพลิง 3 นัด ขัดลำกล้อง 1 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์รอยวิถีกระสุน

อย่างไรก็ตามจากข้อพิรุธทางคดีที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ ให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ไปสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพราะเป็นคดีละเอียดอ่อน เรื่องราวซับซ้อน รวมถึงหลายๆ เหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกับคดีของ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อที่จะได้นำเอาประสบการณ์จากการทำคดีฆาตกรรมอำพรางต่างๆที่เคยทำในอดีตมาใช้เป็นแนวทางให้กับตำรวจท้องที่ในการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง






กำลังโหลดความคิดเห็น