ตำรวจสืบสวนนครบาลจับหนุ่มวัยเบญจเพส บัญชีม้าแก๊งหลอกขายกล่องสุ่มพิมรี่พายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สารภาพอ้างให้คนในกลุ่มสล็อตออนไลน์ยืมบัญชีไปใช้
วันนี้ (16 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายสุนันท์ พุ่มพวง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสระบุรี ความผิดฐาน ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ถนนเพชรเกษม ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีคนร้ายใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ว่า “กล่องสุ่ม-พิมรี่พาย” ประกาศขายกล่องสุ่มรางวัลลุ้นโชคใหญ่ จากนั้นมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นายสุนันท์ พุ่มพวง ครั้งแรก 5,000 บาท ต่อมาคนร้ายติดต่อมายังผู้เสียหายว่า ได้รับรางวัลจากกล่องสุ่มเป็นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน แต่ต้องเสียภาษี 7 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวน 94,570 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารเดิมอีก จากนั้นผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อเฟซบุ๊กดังกล่าวได้และก็ไม่ได้รับรถยนต์แต่อย่างใด รวมเงินที่ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไปจำนวน 99,570 บาท จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง สระบุรี ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลพิจารณาออกหมายจับนายสุนันท์ และจากการตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าปัจจุบัน นายสุนันท์ มีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีในระบบอีก 2 หมายจับ คือ ร่วมสนับสนุนฉ้อโกงประชาชนท้องที่ สภ.กระบุรี ภ.จว.ระนอง และฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ท้องที่ สภ.เมืองอุทัยธานี
ทั้งนี้ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลเฝ้าระวังปรากฏพบว่ามีประชาชนรายอื่นอีกกว่า 18 ราย ร้องเรียน https://www.blacklistseller.com/report/report_preview/184699 โดยบัญชีธนาคารของนายสุนันท์ ไปหลอกประชาชนให้โอนเงินจากการหลอกขายสินค้าหลอกเล่นพนันออนไลน์ หลอกร่วมลงทุน รวมถึงหลอกกู้เงินออนไลน์ เสียหายอีกกว่า 1 แสนบาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยเรียนไม่จบชั้นประถมศึกษา ปัจจุบันทำงานรับจ้างก่อสร้าง แจ้งว่า เมื่อช่วงประมาณกลางปี 2565 ขณะนั้นทำงานรับจ้างอยู่ในพื้น อ.หนองแค จังหวัดสระบุรี เข้าไปเล่นพนันออนไลน์ประเภทสล็อต โดยอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊ก “สล็อตออนไลน์” มีผู้ใช้เฟซบุ๊กในกลุ่ม จำชื่อเฟซบุ๊กไม่ได้ทักข้อความมาสอบถามว่ามีบัญชีธนาคารให้ยืมเพื่อแลกกับค่าจ้างวันละ 200 บาทหรือไม่ โดยอ้างว่าจะนำไปใช้ในการรองรับเงินที่ได้จากการเล่นพนันสล็อต เห็นว่าไม่น่าจะเป็นอะไร จึงให้บุคคลดังกล่าวยืมบัญชีธนาคารใช้ โดยแจ้งข้อมูลเลขบัญชีธนาคารที่จำเลขบัญชีไม่ได้ ชื่อบัญชีนายสุนันท์ พร้อมกับถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน และแจ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือให้แก่บุคคลที่ขอยืมบัญชีธนาคารดังกล่าวทราบ จากนั้นประมาณไม่เกิน 10 นาที มีรหัส OTP เข้ามาที่เครื่องโทรศัพท์จึงแจ้งรหัส OTP แก่บุคคลที่ขอยืมบัญชีธนาคารทราบ จากนั้นช่วงเวลาค่ำบุคคลดังกล่าวเติมเงินผ่านระบบทรูมันนี่วอลเล็ตให้จำนวน 200 บาท เพื่อเป็นค่าจ้าง วันต่อมาก็ทำเช่นเดียวกันอีก โดยได้ค่าจ้างรวม 2 วัน จำนวน 400 บาท จากนั้นบุคคลผู้ขอใช้บัญชีธนาคารดังกล่าวก็ได้ปิดกั้นการติดต่อ ต่อมาย้ายมาทำงานในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและมาถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าว
จาการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมาพบว่า นายสุนันท์ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่ถูกดำเนินคดีแล้วและยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี รวมจำนวน 7 คดี
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ยังกล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.