MGR Online - รอง ผบก.สอท.1 รับเรื่องจากผู้เสียหาย เป็นนักลงทุนรายใหญ่ถูกคนร้ายนำรูปภาพสร้างเฟซบุ๊กปลอมหลอกเหยื่อร่วมลงทุน พบเสียหายหลักสิบล้านบาท
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (สอท.1) ชั้น 4 ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ นายสถาพร งามเรืองพงศ์ อายุ 38 ปี หรือ เซียนฮง นักลงทุน พร้อม นายสุนิรันด์ แก้วเจริญ ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความหลังถูกมิจฉาชีพแอบอ้างนำรูปไปเปิดเฟซบุ๊กหลอกให้ประชาชนร่วมลงทุน เกรงว่าจะมีผู้เสียหายเป็นวงกว้างและอาจจะต้องสูญเงินหลายล้านบาท โดยพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 เป็นผู้รับเรื่อง
นายสถาพร ระบุว่า เมื่อประมาณปีที่แล้ว มีมิจฉาชีพได้เอารูปตนไปแอบอ้าง ยิงแอดผ่านทางเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ประชาชนลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท และมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวน จึงได้ปรึกษาทนายความพร้อมไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ ผ่านไปประมาณ 5-6 เดือนทางตำรวจ สภ.ภูเก็ต ได้ติดต่อมาให้ตนไปให้ปากคำในฐานะพยาน หลังมีผู้เสียหายแจ้งว่ามีการนำรูปตนไปใช้ในกลุ่มไลน์ หลอกให้ลงทุนธุรกิจประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า - รถสปอร์ต ซึ่งจากการสอบถามพบว่ามีผู้เสียหายในครั้งนั้น สูญเงินไป 18 ล้านบาท
นายสถาพร ระบุอีกว่า สำหรับครั้งนี้เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนทราบว่ามีมิจฉาชีพนำภาพส่วนตัว ไปโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก และ ไอจี พร้อมระบุข้อความว่าจะแนะนำหุ้นทุกวันๆละ 3 ตัว ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตการลงทุน ไม่สามารถสอนได้ วันนี้จึงเดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่แอบอ้าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อปีก่อน รวมถึงตั้งรางวัลนำจับ 150,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย
"สาเหตุที่ตัดสินใจมาแจ้งความเพราะไม่อยากให้มีผู้เสียหายต้องหลงเชื่อมิจฉาชีพเหล่านี้ และเกรงว่าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นเชื่อว่าจะสูงถึง 100 ล้านบาท"
นายสุนิรันด์ ระบุว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมพยานหลักฐาน เป็นข้อความการสนทนาในกลุ่มไลน์ โดยมิจฉาชีพจะใช้ชื่อ-นามสกุลจริงของลูกความ และมีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หากมีผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะชักชวนเข้าไปในกลุ่มไลน์ปิด จากนั้นจะมีหน้าม้าคอยพิมพ์ข้อความสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหาย บางครั้งจะใช้ชื่อไลน์ปลอมที่ระบุว่าเป็นตัวลูกความมาคุยกับผู้เสียหาย และ ส่งต่อให้กับไลน์ผู้หญิงรายหนึ่ง ที่ระบุว่า เป็นลูกศิษย์ของผู้เสียหาย คอยแนะนำผู้ที่หลงเชื่อให้ลงทุน พร้อมการันตีได้ผลตอบแทนสูง ยืนยันว่า นายสถาพร ไม่ได้ใช้รูปภาพโปรไฟล์ไลน์เป็นภาพส่วนตัว หรือ ภาพครอบครัว แต่อย่างใด รวมถึงไม่เคยชักชวนให้มีการลงทุนแบบนี้
ด้าน พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นจะจัดพนักงานสอบสวนจะบันทึกปากคำ และรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนอื่นๆต่อไป อีกทั้งฝากประชาสัมพันธ์ ว่า ขณะนี้ สอท. กำลังรณรงค์ให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อเป็นการป้องกันถูกนำรูปภาพไปแอบอ้าง หลอกลวงประชาชน จึงฝากเตือนประชาชนว่าแพลตฟอร์มต่างๆหากเป็นบุคคลสำคัญให้สังเกตว่าจะมีการยืนยันตัวตน เป็นเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า เพื่อเป็นการคัดกรองว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตัวจริง