จากกรณีเหตุการณ์นักเรียนช่างก่อเหตุไล่ยิงคู่อริในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ คุณครูศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี คุณครูสอนคอมพิวเตอร์โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกกระสุนลูกหลงเสียชีวิต มีนักศึกษาอุเทนถวาย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย จน นายอนุทิน ชาญวีรกุล มท.1 ต้องเร่งหารือกับอธิบดีกรมการปกครอง เตรียมเสนอแนวทางการแก้ไขกฎหมายห้ามคนไทยพกปืน จนเกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะสุจริตชนคนครอบครองอาวุธปืนที่ถูกกฎหมายที่ไม่เห็นด้วย
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายสุภาพ ดิลกวงศ์ นายสนามยิงปืนสามโคก (ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี) เผยถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกประกาศควบคุมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน สิ่งเทียมอาวุธ คุมเข้มแบลงค์กัน พร้อมกำชับถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ดำเนินการเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ภายหลังเกิดเหตุกราดยิงภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดเกิดเหตุนักศึกษาอุเทนถวาย ถูกยิงเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ว่า ตนขอยืนยันถึงปัญหาเรื่องการใช้อาวุธปืนก่อเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนนอกระบบ ปืนเถื่อน ปืนดัดแปลง และสิ่งเทียมอาวุธที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ยิงกระสุนจริงแทบทั้งสิ้น
อย่างปัญหาที่เกิดขึ้นในศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว จนกรณีล่าสุดที่กระสุนลูกหลงไปถูกคุณครูเสียชีวิต ส่งผลกระทบไปถึงบรรดาสุจริตชนที่ครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กระทบชิ่งไปถึงผู้ประกอบการร้านค้า สมาคมกีฬาฯ สนามยิงปืน จนถึงเวลานี้นั้น ตนทราบว่าผู้ต้องหาที่สยามพารากอนใช้อาวุธปืนดัดแปลงมาลงมือก่อเหตุ ส่วนเคสที่ สน.ทุ่งมาเมฆ ก็เชื่อว่าเป็นปืนนอกระบบเหมือนกัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับอาวุธปืนที่มีทะเบียน หรืออาวุธปืนที่ขอครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากใครที่ครอบครองอาวุธปืนมีทะเบียนอยู่แล้วจะทราบดีถึงขั้นตอนการตรวจสอบ การพิจารณาคุณสมบัติของนายทะเบียนท้องที่ ว่า แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด มีความเข้มข้นในการคัดกรองมากเพียงใด คนขอทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และประชาชน ต้องมีผู้รับรองความประพฤติ มีการตรวจสอบหลักทรัพย์ และประวัติอาชญากร อย่างละเอียดถี่ถ้วน จึงจะสามารถกอดใบ ป.3 เข้าไปซื้อปืนที่ร้าน ขอรับโอน หรือซื้อต่อจากเจ้าของเดิมได้
อาวุธปืนที่ถูกต้องในระบบนั้นไม่ใช่ใครอยากจะซื้อก็ได้ซื้อ หรือมีเงินจะได้ครอบครองกันโดยง่าย เพราะฉะนั้นก่อนชักอาวุธปืนออกมาใช้ เจ้าของต้องผ่านการไตร่ตรอง พูดง่ายๆ ว่าต้องคิดแล้วคิดอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ นายทะเบียนแต่ละท้องที่ในประเทศไทยก็ใช้ดุลยพินิจ ในการออกใบอนุญาต ป.3 หรือใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนไม่เหมือนกัน คนอยากซื้อปืนจะต้องสืบเสาะหาข่าวเอาเองว่า นายทะเบียนในท้องที่ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ใช้กฎเกณฑ์แบบไหน นโยบายเป็นยังไง นายเขาต้องการอะไร จึงค่อยตัดสินใจเดินขึ้นที่ว่าการอำเภอไปยื่นเอกสารขอใบอนุญาตได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วย อยากให้กระทรวงมหาดไทย ออกกฎหมายควบคุมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไปเลยทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
นายสุภาพ ยังให้ความเห็นด้วยว่า เรื่องที่น่ากลัวไม่แพ้ปืนเถื่อน ก็คือ ปืนถูกกฎหมายแต่มีพวกมักง่าย เอาไปจำนำ ทำการซื้อขายครอบครองกันแบบผิดมือ ทึกทักกันเองว่าจ่ายเงิน แล้วให้เจ้าของปืนเซ็นต์ลายชื่อสลักหลังโอนลอยในใบ ป.4 แล้วจะจบปัญหา พวกที่คิดว่า การซื้อขายอาวุธปืนทำกันง่ายๆ เหมือนซื้อขายรถมือสอง ซึ่งความคิดและการกระทำเช่นนี้ถือเป็นภัยอย่างมหันต์ กระทรวงมหาดไทยควรเร่งประชาสัมพันธ์ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำกันได้ ปืนเป็นทรัพย์สินที่เจ้าของต้องใช้มาตรการควบคุมอย่างสูง ดังนั้นหากยอมให้เปลี่ยนมือไปลอยๆ ก็เท่ากับคุณพร้อมเดินเข้าคุกเปลี่ยนที่ไปนอนในมุ้งสายบัวได้ตลอดเวลา
“ในฐานะนายสนามยิงปืนซึ่งอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายทุกประการ มองว่า ประกาศสั่งห้ามนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธ การลงทะเบียนอาวุธปืนแบลงค์กัน บีบีกันหรือกำจัดสิ่งเหล่านี้ที่สามารถนำมาดัดแปลงให้ใช้ยิงกระสุนจริงได้นั้น เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ มานานแล้ว เพราะมันคือต้นตอของปัญหาที่แท้จริง ส่วนเรื่องการควบคุมอาวุธปืนในระบบที่กระทรวงมหาดไทย ออกคำสั่งให้งดออกใบ ป.12 หรือใบอนุญาตพกอาวุธปืน ที่ในวงการ ถือว่าเป็นของที่ได้มายากที่สุดนั้น ตนมองว่า การสั่งให้งดออกใบ ป.12 ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะที่ผ่านมา ป.12 ขอยาก ตั้งเพดานคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเอาไว้สูงมากๆ อยู่แล้ว” นายสุภาพ กล่าว