รรท.รอง ผบช.น.ประชุมคดีรถบรรทุกตกบ่อร้อยสายไฟกลาง ถ.สุขุมวิท เผยเรียกเจ้าของรถเข้าให้ปากคำ พร้อมขยายผลตรวจสอบความผิดเพิ่มเติม เบื้องต้นยังแจ้งข้อหาแค่ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย-มีผู้บาดเจ็บ
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ สน.พระโขนง พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รรท.รอง ผบช.น.พร้อม พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท. ผบก.น. 5 พ.ต.อ.ภพธร จิตติ์หมั่น รอง ผบก.น. 5 ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับ สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มน.พระโขนง มีการประชุมร่วมกันในคดีรถสิบล้อบรรทุกดิน ตกบ่อร้อยสายไฟกลางถนนสุขุมวิท โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 45 นาที
โดยพล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อหาคนขับรถไปแล้วในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และข้อหาขับรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้จะมีการตรวจสอบความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งรถบรรทุกว่ามีอุปกรณ์ส่วนควบหรือไม่ รวมถึงบ่อพักว่ามีการก่อสร้างตรงตามหลังวิศวกรรมไหม ซึ่งจะได้ประสานสภาวิศวกรรมร่วมตรวจสอบด้วย และในวันนี้ได้มีการเรียกเจ้าของรถบรรทุกเข้ามาสอบปากคำ
ส่วนกรณีที่มีภาพการเอาน้ำมันออก รวมถึงการเอาดินกลับไปที่ไซด์งานก่อสร้างนั้น พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่า มีเจตนาทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ หรือ เป็นเพียงการเอาน้ำมันออกเพราะกลัวจะระเบิด และเอาดินกลับไปเพราะความเข้าใจผิด ซึ่งหากพบว่ามีเจตนาก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเรื่องส่วนสติ๊กเกอร์หน้ารถดังกล่าว ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นกัน เบื้องต้นทราบว่าผู้ประกอบการมีรถหลายคัน จึงมีการติดสติกเกอร์ไว้เป็นสัญลักษณ์ แต่หากพบว่า มีการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับรถคันอื่นๆ ของผู้ประกอบการรายนี้ หากปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่จะต้องมีการจับตาเป็นพิเศษว่าขณะวิ่งมีการกระทำผิดหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.โอภาส เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได่ติดตามตัว คนงานที่นำแกลลอนมาถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกดิน มาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นให้การว่าได้รับคำสั่งให้ถ่ายน้ำมันออกจากถังรถ เนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงเกรงว่าน้ำมันอาจรั่วจนเกิดอันตราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ได้นำน้ำมันของกลางมาส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะอำพรางทำให้น้ำหนักรถลดลง ดังนั้นจึงยังไม่มีการแจ้งข้อหา
