ศาลฎีกานักการเมืองเลื่อนฟังคำพิพากษา คดี “ยิ่งลักษณ์” โยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” ไปวันที่ 29 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.เนื่องจากองค์คณะผู้พิพากษามีเหตุจำเป็น ไม่อาจก้าวล่วงได้
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง วันนี้ (9 พ.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อม.11/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
กรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก ใช้อำนาจโอนย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบเมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554 โดยโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในวันนี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรีและ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความจำเลยมาฟังคำพิพากษา ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์จำเลยหลบหนีอยู่ต่างประเทศไม่มาศาล
โดย นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความจำเลยกล่าวว่า ศาลได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้อีกครั้งวันที่ 29 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น. เนื่องจาก มีองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 1 ท่านไม่มา โดยมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ จึงไม่สามารถทำคำพิพากษาในวันนี้ได้ และก่อนมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนเองในฐานะทนายความก็มาทำหน้าที่ตามที่ศาลกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์และทีมทนายความมีความกังวลกับคดีนี้หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ทนายความทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และเรามีความมั่นใจในการสู้คดี ส่วนผลคำพิพากษาจะเป็นอย่างไร ก็ให้รอฟังในวันที่ 29 พ.ย.นี้อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงนามในคำสั่งให้นายถวิลไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ครม.มีมติแต่งตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขา สมช. ซึ่งนายถวิลได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดและศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย
และ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อมาศาลฎีกาฯได้ประทับรับฟ้อง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลฎีกาได้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 วรรคหนึ่ง เนื่องจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล