MGR Online - “โฆษกราชทัณฑ์” แจงตำรวจออกหมายจับเพิ่ม 1 ผู้คุม พบพยานให้การเปลี่ยนโซ่ตรวน “เสี่ยแป้ง” ก่อนหลบหนี เบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน หากเจ้าหน้าที่โดนคดีอาญา
วันนี้ (4 พ.ย.) นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายวีระชัย หนูด้วง อายุ 42 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช (เวรผลัดเช้า) ตามมาตรา 157 ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามอำนาจศาล จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้ที่อยู่ระหว่างคุมขัง หลุดพ้นจากการคุมขังไป ว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทราบว่า น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้ ให้การกับตำรวจพาดพิงพฤติการณ์ของ นายวีระชัย ถูกระบุว่าเป็นผู้เปลี่ยนโซ่ตรวนให้นายเชาวลิต ในช่วงเวรผลัดเช้า (08.30-16.30 น.) และตามที่เป็นข่าวก็เดินทางเข้ามอบตัว สภ.เมืองนครศรีธรรมราช แล้ว
นายสิทธิ เผยว่า ส่วนเพราะเหตุใดถึงไม่มีคำสั่งย้าย 2 ผู้คุมผลัดเช้าไปปฏิบัติหน้าที่ยัง กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี เหมือนกับผู้คุมอีก 2 ราย เวรผลัดบ่าย (16.30-08.30 น.) ก่อนหน้านี้ เนื่องจากโดยปกติถ้ามีผู้ต้องขังหลบหนี ราชทัณฑ์จะย้ายผู้คุมที่อยู่ในช่วงเวลาเกิดเหตุก่อน คือ ผู้คุมผลัดบ่าย 2 คน ส่วนผู้คุมผลัดเช้า ทางคณะกรรมการราชทัณฑ์เพิ่งสรุปผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนออธิบดีกรมราชทัณฑ์ และต้องมีการสอบสวนเชิงลึกเพิ่มเติม โดยจากข้อมูลพบผู้คุมทั้งสองผลัดปฏิบัติหน้าที่บกพร่องแน่นอน และอยู่ระหว่างดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ แต่ทางตำรวจได้ดำเนินการออกหมายจับผู้คุมเรือนจำ 2 คนแรกก่อนและขยายผลออกหมายจับเพิ่มล่าสุดอีก 1 ราย ทั้งนี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ถูกดำเนินคดีทางอาญา และทางเรือนจำฯ แจ้งเรื่องมายังกรมราชทัณฑ์ก็ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรฐานเดียวกัน
“กรมราชทัณฑ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องสอบสวนผู้คุมทั้งสองผลัดเพิ่มเติม ส่วนผู้คุมอีก 1 รายผลัดเช้านั้น ต้องชี้แจงว่าอยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่แล้ว และยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้เพราะจะกระทบพยานหลักฐานแต่เมื่อตำรวจได้ออกหมายจับคนที่เกี่ยวข้องไปแล้วถึงจะสามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ทางกรมราชทัณฑ์ก็รอผลสอบสวนจากทางตำรวจด้วยเพราะมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่า โดยมีพยานหลักฐานที่เป็นทั้งกล้องวงจรปิด และเส้นทางการเงินต่างๆ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ไม่ได้สอบสวนในส่วนนี้”